สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเป็นประตูสู่ประเทศไทยให้บริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว 1 พฤศจิกายนนี้เพิ่มขั้นตอนสำคัญจุดคัดกรองด่านควบคุมโรค Thailand Pass ให้เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงผลการจัดซ้อมใหญ่ขั้นตอนบริการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศ ภายใต้นโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 64 ของรัฐบาล ว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ มีความพร้อมเต็ม 100 ให้บริการผู้โดยสารภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเข้มงวด บุคลากรผู้ปฏิบัติจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ครบ 34,000 คนภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ หรือคิดเป็น 95% ของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ
รวมถึงการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วนภายในสนามบินสุวรรณภูมิ มีความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะขั้นตอนสำคัญที่จุดคัดกรองด่านควบคุมโรค การตรวจเอกสาร Scan QR Code Thailand Pass ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มขึ้นมาและต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และในอนาคตระบบ Thailand Pass จะนำมาใช้แทนระบบใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย หรือ COE (Certificate of Entry )
ทั้งนี้ เมื่อผู้โดยสารผ่านขั้นตอนดังกล่าวกล่าวแล้วอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส จะเข้าสู่ขั้นตอนด่านตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระที่สายพาน ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร และพบผู้แทนโรงแรมเดินทางเข้าสู่ที่พัก เพื่อดำเนินขั้นตอนสาธารณสุขในที่พักเป็นเวลา 1 คืน หากผลตรวจ RT-PCR ผ่าน สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้
นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะมีเที่ยวบินมาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 80 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินแรกมาจากสนามบินนาริตะประเทศญี่ปุ่น ในเวลาประมาณ 00.25 น. คาดว่าหลังจากเปิดประเทศจะมีปริมาณเที่ยวบินต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 320 เที่ยวบินเป็น 480 เที่ยวบินต่อวัน และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เป็น 38,000 คนต่อวันจาก 15,000 คนต่อวัน และจากการประสานงานกับทุกหน่วยงานสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมร่วมเป็นกลไกสำคัญกับรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ
