ไม่มีเตะถ่วง…แก้ปัญหาก๊าซ NGV-LPG มีคำตอบแน่ 8 ธ.ค.นี้

พีระพันธุ์ รมว.พลังงาน ไม่ทิ้งกลุ่มแท๊กซี่-รถขนส่งสาธารณะ ผู้ใช้ก๊าซ NGV-LPG เร่งหาแนวทางช่วยด่วน แย้ม 8 ธ.ค.นี้ รู้เรื่อง

  • เผยเร่งเดินงานต่อเนื่อง แม้ไม่มีม็อบเคลื่อนไหวมากดดันก็ทำอยู่ดี
  • ยืนยันไม่มีการเตะถ่วง หรือโบ้ยเรื่องให้หน่วยงานอื่น ตามที่มีข้อมูลออกไป
  • ลั่นคณะทำงานพิเศษฯ จะมีคำตอบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง ในวันที่ 8 ธ.ค.66

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กลุ่มผู้ประกอบการแท๊กซี่ ได้เดินทางมายื่นข้อเสนอที่กระทรวงพลังงาน วันนี้ (28 พ.ย.66) เพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาก๊าซ NGV และแก๊ส LPG ที่ราคาสูง รวมถึงประเด็นปั๊มก๊าซทยอยปิดตัว ทำให้หาสถานนีบริการเติมได้ยากขึ้น

ล่าสุด นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครมว.พลังงาน ได้เข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพรถสาธารณะ เพราะราคาก๊าซที่เติมเกือบ 19-20บาท/กิโลกรัม (กก.) นั้นกระทบต้นทุนการทำมาเลี้ยงชีพเค้าโดยตรง แต่ขอให้วางใจ เพราะได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.66 และเร่งเดินงานต่อเนื่อง แม้ไม่มีม็อบเคลื่อนไหวมากดดันพร้อมยืนยันไม่มีการเตะถ่วง หรือโบ้ยเรื่องให้หน่วยงานอื่น ตามที่มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนออกไป

ทั้งนี้ การประชุมมีความถี่หลายครั้ง ตลอดระยะเวลา 26 วัน คณะทำงานภายใต้ชื่อ “คณะกรรมการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาร้องเรียนความเดือดร้อนจากราคาค่าเชื้อเพลิง NGV จากผู้ประกอบการรถตู้ รถเมล์สาธารณะ รถบรรทุกและกลุ่มแท็กซี่” ได้เดินหน้าตรวจสอบข้อมูลจาก องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมขนส่งทางบก และหลายหน่วยงาน เพื่อพิจารณาถี่ถ้วน เพื่อให้สามารถคลี่คลายปัญหาราคาก๊าซทั้ง 2 ชนิด ให้อย่างเป็นธรรม และไม่เดือดร้อนกับทุกฝ่าย

รวมทั้งรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ ยังได้แสดงความเป็นห่วง กำชับให้ตรวจสอบจำนวนปั๊มก๊าซ ที่ยังมีบริการปัจจุบัน เทียบกับจำนวนรถโดยสารที่ใช้ก๊าซทั้งหมด เพื่อดูอัตราส่วนที่พอเหมาะ รวมถึงจัดทำแผนที่ปั๊มก๊าซให้มีการแสดงผลที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ก๊าซเตรียมแผนการเติมการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่าทางคณะทำงานพิเศษแก้ไขปัญหา NGV, LPG และจำนวนปั๊ม จะสามารถมีคำตอบถึงแนวทางจัดการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องเบื้องต้น ได้ในวันที่ 8 ธ.ค.66 นี้ ก่อนที่จะเสนอมติให้หน่วยงานในการกำกับดูแลอย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พิจารณาต่อไป