- อิตาเลียนไทย เข้าซื้อซองเอกสารประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
- รวมเป็นรายที่ 5 ต่อจาก BEM – กลุ่ม BTS และ STEC
- สัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวมประมาณ 1.4 แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน(Request for Proposal Documents: RFP) เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นวันที่ 2 โดยมีเอกชนให้ความสนใจติดต่อขอซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนฯ ในวันนี้ จำนวน 1 ราย ได้แก่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายเอกสารฯ มีผู้ให้ความสนใจติดต่อขอซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนฯ จำนวนทั้งสิ้น 5 ราย ดังนี้ 1. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) 3. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)4. บริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) และ 5. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Documents : RFP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้จนถึงวันที่ 24 ก.ค.63 เวลา 9.00 น. ถึง 15.00 น. ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคาร 1 รฟม.
ทั้งนี้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รฟม.จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างช่วงตะวันตก ติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวมประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยการประมูลครั้งนี้จะได้ผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยจะเริ่มเดินรถจากสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ –มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีความคืบหน้า 64% เร็วกว่าแผน 3% คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 65 กำหนดเดินรถในปี 66 หากได้ตัวผู้เดินรถจะมีระยะเวลาเตรียมการทั้งตัวรถไฟฟ้าและระบบการเดินรถด้วย
สำหรับโครงการดังกล่าวมีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และ สถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)