- ย้ำรัฐใช้เงินอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือทุกโครงการทำไปมีเจตนาให้ถึงมือพี่น้องประชาชน
- พร้อมพยายามอุดรอยรั่ว อุดช่องว่างต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
วันนี้ (6 พ.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 2/2565 ว่า รัฐบาลใช้เงินทุกประเภทอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญที่สุดขอย้ำว่าทุกโครงการที่รัฐบาลทำไปมีเจตนามุ่งหวังที่จะให้ถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยความซื่อสัตย์ต่อกัน ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกไป ก็ขอให้ศึกษาในรายละเอียด เราพยายามที่จะอุดรอยรั่ว อุดช่องว่างต่างๆให้ได้มากที่สุดฉะนั้น อย่าไปเชื่อคำบิดเบือนอะไรต่างๆ
“วันนี้ก็มีข่าวออกมาว่า ไม่สนับสนุนให้ร้านค้าสมัครโครงการคนละครึ่ง เพราะจะถูกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเรื่องภาษี ถ้ารายได้ไม่ถึงเราจะเก็บได้อย่างไร จะเก็บภาษีย้อนหลังได้หรือเปล่าก็เก็บไม่ได้อยู่ดี ภาครัฐมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ทุกคนมีการใช้จ่ายให้เกิดผลไปยังผู้ผลิตสินค้า เพราะอยู่ในวงจรเดียวกันทั้งหมด เมื่อมีคนใช้จ่ายก็ต้องมีสินค้า และผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมา นั่นคือการสร้างห่วงโซ่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 5 รัฐบาลยังจะเดินหน้าต่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า เท่าที่ศึกษาดูก็จะหาทางเดินที่จะทำให้ทั่วถึง ส่วนได้ทั้งหมดเหมือนเดิมหรือไม่ ก็ต้องไปดูความเดือดร้อน เพราะทุกครั้งที่เราให้ไปเราให้กว้างให้เต็มทุกกลุ่มทุกพวก ซึ่งเราใช้เงินประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาททุกครั้ง ซึ่งทุกท่านก็ทราบดี เงินงบประมาณตอนนี้ก็ร่อยหรอลดลง ก็จะต้องไปดูว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน ทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งก็กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาอยู่
