“ไบเดน” ซัดคำสั่งยกเลิกใส่หน้ากากอนามัย เป็นความผิดพลาด! ทำให้คนเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้น

วันที่ 4 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้กล่าวถึงกรณีผู้ว่าการฯ รัฐเทกซัสและมิสซิสซิปปี ประกาศให้ประชาชนเลิกสวมหน้ากากอนามัยและเตรียมเปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบสัปดาห์หน้า โดยระบุว่า เป็นความคิดของมนุษย์ยุคหิน ซึ่งจะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น

ไบเดน กล่าวว่า การตัดสินใจยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เขาอยากให้ทุกคนตระหนักว่า หน้ากากอนามัยทำให้การควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แม้สหรัฐมีความพร้อมในการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นที่ถือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นกัน แต่การระมัดระวังตัวเอง เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ และการเว้นระยะห่างทางสังคมก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เขาไม่อยากให้เกิดความคิดล้าหลังแบบ “นีแอนเดอร์ทัล”ที่เป็นมนุษย์ในยุคหินที่คิดว่า ในตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ทุกคนถอดหน้ากากอนามัยได้ หรือลืมเรื่องนี้ไปเสีย ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ยังคงมีความจำเป็นอยู่

ส่วนข้อมูลของทางการสหรัฐระบุว่า สหรัฐยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันในระดับสูงกว่า 50,000 คน แม้รัฐบาลสหรัฐได้แจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปแล้วกว่า 100 ล้านโดส และฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกว่า 50 ล้านคน