ท้องฟ้าสว่าง!”ไทยแอร์เอเชีย”มั่นใจปีหน้่าจะกลับมาบุกทุกเส้นทางบินทั้ง ใน และ ต่างประเทศ หลังอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 81% เกือบทุกเส้นทาง สวนกระแสปรับค่าโดยสารขึ้น 20% พร้อมปัดฝุ่นดึงเครื่องบินกลับประจำฝูงให้ครบ 53ลำ จ่อระดมเรียกพนักงานกลับมาทำงานเต็ม100% หลังพบสถานการณ์ฟื้นตัวต่อเนื่อง รับสัญญาณบวกจากตลาดระหว่างประเทศ ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสารปีหน้า 20 ล้านคน ทำกำไรเป็นบวก
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยถึงสถานการณ์การบินในปี 66 ว่า ไทยแอร์เอเซียมั่นใจว่าปีหน้าอุตสาหกรรมการบินจะเริ่มกลับมา สายการบินจะทยอยเพิ่มเที่ยวบิน เส้นทางบิน โดยปีนี้มั่นใจว่าจะขนส่งผู้โดยสารที่10 ล้านคนตามเป้า หลังจากที่ไตรมาส 4 ยอดผู้โดยสารพุ่งทั้งเส้นทางภายในประเทศเเละระหว่างประเทศ ปัจจุบันแอร์เอเซียมีส่วนแบ่งการตลาดการบินทั้งระบบที่32%มีเครื่องบินทำการบินอยู่ 41-43ลำ และมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินสูงสุด เท่ากับ 12 ชั่วโมงต่อวัน ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และมีอัตราปริมาณการขนส่งผู้โดยสารตลอดปี สูงที่ 81% อย่างไรก็ตามคาดว่าปีหน้าสถานการณ์จะฟื้นตัวต่อเนื่อง รับสัญญาณบวกจากตลาดระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าจะขนส่งผู้โดยสารภาพได้ 20 ล้านคน และจะทำกำไรได้ารายได้ในปี66แน่นอน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทประเมินว่าจะทำกำไร เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเละการบินฟื้นตัว ปริมาณผู้โดยสารโตต่อเนื่องทุกเส้นทางบิน ขณะที่บริษัทได้มีการปรับราคาค่าโดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20% ปริมาณผู้โดยสารก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากเดิมสัดส่วนผู้โดยสารในประเทศ 70%และต่างประเทศที่ 30%คาดว่าในปี 66สัดส่วนผู้โดยสารในประเทศ60%และต่างประเทศที่ 40%
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้โดยสารในประเทศจะมากกว่า แต่รายได้ในเส้นทางต่างประเทศจะทำรายได้ที่ดีกว่าในประเทศ นอกจากนั้นปัจจัยของตลาดประเทศจีนถือเป็นตัวเเปรสำคัญในการฟื้นตัวของตลาดในไทย จึงคาดว่าภายในไตรมาส 1 ปี 66 รัฐบาลจีนน่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าออกประเทศ รวมถึงพิจารณานโยบายจำกัดโควตาเที่ยวบินเข้าประเทศ ดังนั้นไทยแอร์เอเซียก็พร้อมขยายเส้นทางบินเข้าสู่ประเทศจีนได้ทันที
“นอกจากตลาดจีนที่เป็นเป้าหมายสำคัญเเล้ว ไทยแอร์เอเชียได้ปรับแผนกลยุทธ์ในการสร้างเสถียรภาพธุรกิจ โดยไม่พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยปี 65 ที่ผ่านมา สายการบินรุกหนักตลาดอินเดีย เอเชียใต้ และอาเซียน ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก รวมถึงตลาดประเทศญี่ปุ่น บินตรงดอนเมือง-ฟุกุโอกะ สำหรับปี 66ได้วางเเผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ ในตลาดที่มีศักยภาพต่อเนื่อง เช่น ประเทศเนปาล ปากีสถาน หรือเมืองอื่นๆ ในประเทศอินเดีย ทำให้คาดการณ์ว่าจะกลับมาให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ ด้วยปริมาณที่นั่งไม่น้อยกว่า 90 %เมื่อเทียบกับก่อนโควิด ขณะเดียวกันบริษัทก็มีแผนที่จะเรียกพนักงานที่หยุดงานไปกลับมาทำงานให้ครบ 100%และนำเครื่องบินที่มีที่หยุดทำการบินไปกลับมาประจำฝูงบินให้ครบ 53 ลำ จากที่ปัจจุบันทำการบินอยู่ 41-43ลำ”
