ไทยเฮ! ฟิลิปปินส์ยกเลิกใช้เซฟการ์ดรถยนต์

.ไม่เก็บภาษีเซฟการ์ดรถยนต์ 2 รายการนำเข้าจากไทย

.หลัง “จุรินทร์” สั่งตั้งทีมไทยแลนด์เจรจา-ทำข้อมูลโต้แย้ง

.รักษาส่วนแบ่งตลาดส่งออกปีละกว่า 7 หมื่นล.ไว้ได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการฟิลิปปินส์เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการปกป้องการนำเข้า (เซฟการ์ด) สินค้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถปิกอัพจากทั่วโลก รวมถึงไทย จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในว่า ฟิลิปปินส์ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อใช้เซฟการ์ดกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถปิกอัพที่นำเข้ามาตั้งแต่เดือนธ.ค.63 เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมภาษี หรือรายได้เพิ่มจากผู้นำเข้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสินค้านำเข้า และได้ประกาศเรียกเก็บอากรเซฟการ์ดจากผู้นำเข้าของฟิลิปปินส์ โดยเรียกเก็บอากรรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 42,000 บาทต่อคัน รถปิกอัพ 66,000 บาทต่อคัน ส่งผลให้ผู้นำเข้ารถยนต์ 2 ประเภทของฟิลิปปินส์ที่นำเข้าจากไทย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 1,200 ล้านบาท และกระทบต่อการส่งออกของไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 ฟิลิปปินส์ได้ประกาศยุติการใช้เซฟการ์ดกับรถยนต์ที่นำเข้าทั้ง 2 ประเภท แล้ว และได้คืนเงิน 1,200 ล้านบาทให้กับผู้นำเข้า  หลังจากที่ตนได้มอบนโยบายให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งรัดการแก้ปัญหา โดยตั้งทีมไทยแลนด์ ประกอบด้วย กรมการค้าต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำที่ฟิลิปปินส์ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาและจัดทำข้อมูลโต้แย้งฟิลิปปินส์, ตนได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีการค้าของฟิลิปปินส์ 2 ครั้ง เพื่อสอบถามว่า การไต่สวนเซฟการ์ดครั้งนี้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) หรือไม่ หากไม่สอดคล้อง ไทยจะฟ้องร้องฟิลิปปินส์ต่อดับบลิวทีโอ

“การยกเลิกครั้งนี้ จะส่งผลให้ไทยรักษาส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ 2 ประเภทในตลาดฟิลิปปินส์ แต่ละปีไทยส่งออกรถยนต์ 2 ประเภทไปฟิลิปปินส์ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยนำเข้าถปิกอัพจากไทยถึง 99% ของการนำเข้าทั้งหมด และนำเข้ารถเก๋งส่วนบุคคลจากไทย 20% ของการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด ถือเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากออสเตรเลีย เวียดนาม และญี่ปุ่น” 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการค้าและอุตสาหกรรม ฟิลิปปินส์ ได้เปิดไต่สวนเพื่อใช้เซฟการ์ดกับการนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถกระบะตามการร้องเรียนของอุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์ ที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น และหลังจากไต่สวนเบื้องต้น พบว่า มีการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศในปริมาณมากเกินไปจนทำให้ตลาดในประเทศเกิดความเสียหาย จึงประกาศเก็บอากรป้องกันชั่วคราวสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถกระบะ มูลค่า 1,500 และ 2,300 เหรียญสหรัฐฯต่อคัน ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.- 19 ส.ค.64 หลังจากนั้น อาจมีการบังคับใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม แต่หลังจากที่ไทยได้โต้แย้งทางการฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ยกเลิกการใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว