ในหลวงทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมณศักดิ์ “พระพรหมมงคลญาณ’” ขึ้นเป็น “สมเด็จพระญาณวชิโรดมฯ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย.2563) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ โดยมีรายละเอียดความว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูรกิติสิริสมบูรณอดุลยเดชสยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่าพระพรหมมงคลญาณ เป็นพระเถระผู้เจริญในสมณคุณ ยินดีในเนกขัมมปฏิบัติสมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตรรัตตัญญูมหาเถรกรณธรรม มั่นคงตลอดมา ได้ประกอบกรณียกิจเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและราชอาณาจักรอย่างไพศาล ดังปรากฏในประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นที่พระราชาคณะเจ้าคณะรองเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ แล้ว นั้น

ครั้นต่อมา พระพรหมมงคลญาณ ได้เจริญยิ่งด้วยอุตสาหวิริยาธิคุณมิได้ท้อถอย ได้ปกครองดูแลและให้ความอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในอารามอย่างสม่ำเสมอ สนับสนุนและให้ความสำคัญด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนของชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาสมาธิการฝึกอบรมสมาธิภาวนาจิต เผยแพร่ไปทั่วประเทศและในต่างประเทศ ก่อให้เกิดการน้อมนำธรรมเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนของพุทธศาสนิกชนในยุคปัจจุบัน

สรรพกรณียกิจที่ พระพรหมมงคลญาณ ได้บำเพ็ญปฏิบัติตลอดมานั้น ย่อมเกิดผลดีทั้งแก่พระพุทธศาสนา ประเทศชาติและประชาชนทั่วไป นับได้ว่าเป็นผู้มีความอุตสาหวิริยะประกอบด้วยเมตตาธิคุณและกรุณาธิคุณเกื้อกูลต่อพหูชน อุทิศตนแก่พระพุทธศาสนาและสังคมอย่างแท้จริง สมควรที่จะได้ยกย่องให้ด ารงสมณฐานันดรที่สมเด็จพระราชาคณะสืบไป

จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา พระพรหมมงคลญาณ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๐ รูป

ขออาราธนาพระคุณ จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน ช่วยระงับอธิกรณ์และอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอาราม ตามสมควรแก่กำลัง และอิสริยยศ ซึ่งพระราชทานนี้ และจงเจริญอายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณคุณสารสิริสวัสดิ์ จิรัฏฐิติ วิรุฬหิไพบูลย์ ในพระพุทธศาสนาเทอญ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓

ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน