โอกาสทองคนอยากมีบ้าน! ธอส.คาดดอกเบี้ยบ้านในประเทศอยู่ในระดับต่ำอีก 3 ปี

  • ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังโตหลังรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ
  • ชี้คนจะหันไปซื้อที่อยู่อาศัยรอบนอกกทม.มากขึ้น
  • คาดหนี้เเอ็นพีแอลปีนี้ไม่เกิน 4%

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)​ กล่าวว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยบ้านของธอส.อยู่ที่ 3 % บวกลบ 0.25 % ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากในรอบมากกว่าสิบปีที่ผ่านมา โดยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากนั้นทำให้คนซื้อมีภาระการผ่อนชำระต่อเดือนต่ำลง ประกอบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศก็ถูกลงด้วย อีกทั้งบ้านมือสองก็มีปริมาณที่เยอะมากในตลาด ทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสเลือกซื้อบ้านในทำเลและราคาที่ถูกลงและตัวเองต้องการได้มากขึ้น

“แม้อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับที่ต่ำเช่นนี้ก็ยังไม่เห็นสัญญาณของการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)​ ได้ออกมาตรการที่ใช้เพื่อดูแลและป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ (Macro Prudential)​ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยการกำหนดวงเงินการให้สินเชื่อ ต่อมูลค่าของบ้าน หรือ Loan To Value ซึ่งเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2562 การกำหนดเกณฑ์ LTV ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจะต้องวางแผนการออม หรือมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อวางเงินดาวน์มากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อบ้านหลังที่สองหรือสัญญาที่สองเป็นต้นไป”

ทั้งนี้เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังสามารถขยายตัวได้อีก เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้เมืองขยายตัว โดยคนจะหันไปซื้อที่อยู่อาศัย รอบนอกกรุงเทพมากขึ้น เนื่องจากเส้นทางคมนาคมโดยรถไฟฟ้าที่สะดวกในการเดินทางเข้าศูนย์กลางของเมือง อีกทั้งบ้านที่อยู่รอบนอกเขตกรุงเทพ ยังมีราคาต่อตารางเมตรที่ต่ำกว่าบ้านที่อยู่ในกรุงเทพ

สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของ ธอส.ในปี 2564 ตั้งไว้ที่ 215,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะบวกลบไม่เกิน 5% โดยเป้าสินเชื่อปีนี้ สูงกว่าเป้าสินเชื่อปีก่อนหน้า 3%

“คาดว่าธอส.น่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากสถานการณ์การเมืองโดยเฉพาะการชุมนุมประท้วง ไม่ส่งผลกระทบต่อการเมืองในประเทศ โดยหากจะทำให้ ธอส.ปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายดังกล่าว ในแต่ละเดือนจะต้องปล่อยสินเชื่อให้ได้ไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท แต่ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทำได้ต่ำกว่าเป้าโดยปล่อยได้เพียง 9, 000 ล้านบาท แต่ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้ กระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท*

สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และเข้าโครงการช่วยเหลือของธอส. ที่ผ่านมามีวงเงินสินเชื่อรวม 540, 000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ออกจากมาตรการช่วยเหลือแล้วและกลับไปเป็นหนี้ปกติ และมีลูกหนี้อีก 139, 000 ล้านบาท ที่ยังคงอยู่ในมาตรการช่วยเหลือของธอส.สำหรับหนี้เอ็นพีแอล( NPL)​ ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ไม่เกิน 4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.30%

สำหรับเป้าสินเชื่อ 215, 000 ล้านบาทดังกล่าว แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อสังคม จำนวน 140, 000 ล้านบาทซึ่งจะเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับคนรายได้น้อย คิดเป็นสัดส่วน 65 % ของเป้าทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นสินเชื่อเพื่อธุรกิจซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยตามปกติ ส่วนสินเชื่อคงค้างของธอส.ในปีนี้นั้น คาดว่าจะอยู่ที่ 1.374 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายในปีที่แล้ว 3 %