- บริษัทขนาดกลาง-เล็กอีกกว่า 300,000 แห่ง เสี่ยงต้องปิดกิจการ
- ร้านอาหาร โรงแรม ค้าปลีกเสื้อผ้า ปิดกิจการมากสุด
สำนักข่าวเอ็นเอชเค รายงานผลการวิจัยของบริษัท เทโกกุ ดาต้าแบงก์ บริษัทวิจัยด้านสินเชื่อของญี่ปุ่นพบว่า จนถึงวันศุกร์ที่ 4 กันยายน มีบริษัทที่ยื่นขอล้มเลิกกิจการ 489 แห่ง โดยบริษัทที่เลิกกิจการนี้นับรวมบริษัทที่ได้ยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย หรือได้เริ่มกระบวนการทางกฎหมายในการชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการหลังหยุดดำเนินกิจการตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ขอล้มเลิกกิจการมากที่สุด รองลงมาคือโรงแรม และบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า
บริษัทวิจัยธุรกิจในญี่ปุ่นระบุว่า ผลกระทบของไวรัสโควิดต่อธุรกิจยังไม่สะท้อนออกมาทั้งหมด เพราะรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริง มีธุรกิจในบางภาคส่วนแทบจะดำเนินการไม่ได้เลยตั้งแต่เดือนเมษายน และหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ การฟื้นตัวกลับมาจะยากลำบากยิ่งขึ้น
ด้านบริษัทวิจัยโตเกียว โชโก ได้สำรวจเกี่ยวกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเมื่อเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมธุรกิจ SMEs 8.5% ระบุว่าธุรกิจของตนอาจต้องปิดตัวลง หากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงยืดเยื้อ
ทั้งนี้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในญี่ปุ่นมีจำนวนเกือบ 3,600,000 แห่ง และผลสำรวจนี้ชี้ว่าในจำนวนนี้กว่า 300,000 แห่งเสี่ยงจะต้องปิดตัวลง
