เอาจริง!…กทพ-สตช.เข้มตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย บนทางด่วนเจอจับดำเนินคดี

​นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยหลังแถลงข่าวมาตรการความปลอดภัยบนทางพิเศษด้วยกล้องตรวจจับความเร็วและกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน) รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย โดย ร่วมกับ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรปราการ และพ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เข้าร่วมว่า จากข้อมูลของ กทพ. โดยระบบงานเหตุการณ์บนทางพิเศษ (TFC) พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนทางพิเศษ ในปีงบประมาณ 2563 มีมากกว่า 800 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 440 รายและเสียชีวิต จำนวน 7 ราย โดยเกือบร้อยละ 50 ของอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ อาทิการใช้ความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ฯลฯ กทพ. โดยฝ่ายควบคุมการจราจร จึงได้จัดทำแผนการดำเนินงานการป้องกันอุบัติเหตุในทางพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2563 -2565 ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้บนทางพิเศษโดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันและลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ทางพิเศษให้เหลือน้อยที่สุดรวมถึงลดความสูญเสียในทรัพย์สินของผู้ใช้ทางพิเศษและของกทพ.อันจะทำให้ผู้ใช้ทางพิเศษเกิดความสะดวกและปลอดภัยในการใช้ทางพิเศษ

ทั้งนี้จะเห็นว่ามาตรการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ 2563-2565 ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ

1. การติดตั้งป้ายแจ้งเตือนความเร็ว (Your Speed Sign) ที่ทำงานควบคู่ไปกับกล้องตรวจจับความเร็วเพื่อให้ผู้ใช้ทางพิเศษใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด โดย กทพ. จะดำเนินการติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วทุกสายทางพิเศษรวมจำนวนทั้งสิ้น 17 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่งกทพ. ได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จำนวน2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 4 จุดเเละทางพิเศษเฉลิมมหานครจำนวน 5 จุด สำหรับอีก 2 เส้นทางที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการประกอบด้วย ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 4 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2564 เเละทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 4 จุดคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2565

​2.การติดตั้งกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน)เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในไหล่ทางโดยกทพ. จะดำเนินการติดตั้ง จำนวน 32 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่ง กทพ. ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม2563 จำนวน1 เส้นทาง คือทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 10 จุด ส่วนอีก 3 เส้นทาง อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 6 จุด ทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 8 จุด และทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 8 จุด        

​ทั้งนี้ ในส่วนของทางพิเศษที่มีเอกชนร่วมดำเนินการ กทพ. ได้ประสานให้มีการติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว และกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน) เช่นกัน

​สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานกทพ. จะรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดพร้อมไฟล์ภาพจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

​อย่างไรก็ตามนอกจากการใช้ความเร็วสูง หรือวิ่งไหล่ทางซ้ายที่เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุแล้วยังมีปัจจัยอื่นที่เป็นสาเหตุได้อีกเช่น สภาพรถที่ไม่สมบูรณ์ไม่มั่นคงแข็งแรง ยางแตก ระบบเบรคขัดข้อง เป็นต้น กทพ. จึงได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทางพิเศษตรวจสภาพรถก่อนขึ้นใช้ทางพิเศษเพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้ทางพิเศษและเพื่อนร่วมทางด้วย