เสียงสะท้อนภาคธุรกิจโหวตนายกฯล่าช้ากระทบเชื่อมั่น-นักลงทุนต่างชาติ

ประธานหอการค้าไทย หวังทุกฝ่ายจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศหนุนให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด ล่าช้ากระทบความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึง ผลการโหวตนายกรัฐมนตรีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภาเมื่อวานนี้(13 ก.ค.)ว่า เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีกระบวนการหารือและทำความเข้าใจร่วมกัน ในที่สุดทุกฝ่ายจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศและสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด เพราะหากได้รัฐบาลล่าช้าออกไป การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) และการประกาศนโยบายต่อรัฐสภาอาจจะเกิดขึ้นช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2566 และกว่าจะจัดทำงบประมาณแล้วเสร็จอาจได้เริ่มใช้งบประมาณประเทศในไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งจะล่าช้าและกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเอกชนจึงอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่รวดเร็วที่สุด เพื่อเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล คงจะกลับไปทำความเข้าใจและเจรจาพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันใหม่อีกครั้ง และคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด ส่วนการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนภายใต้กฎหมายที่สามารถทำได้ ไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายมองว่าสามารถเติบโตได้ทั้งปี 3-3.5%