- ย้ำ “สมคิด” กับ “4 กุมาร” ต้องไป!
เสนอ“ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” กับ “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล”เป็น รมว.คลัง แทน อุตตม แกนนำพปชร. ยืนกรานส่งสมคิด กับ 4 กุมารกลับบ้าน เพราะเศรษฐกิจไทยหลังโควิด-19 ต้องคิดใหม่ทำใหม่ในสภาวะของชีวิตวิถีใหม่(New Normal)
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เดิมยื่นใบลาออก มีผลทำให้ต้องมีการเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่แทนชุดเก่าที่มีการลาออกไป 18 คน และมีผลให้พรรคพปชร.ต้องเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ จากนายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน
ทั้งนี้ การประชุมพรรคควรใช้เวลาตามที่กฏหมายกำหนดคือภายใน 45 วัน สำหรับทีมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึง 4 กุมาร ที่ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.กระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษิณฑรีย์ รมว.กระทรวง และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.สำนักนา ยกรัฐมนตรี ควรจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
มีคำถามมากมายว่า เหตุใดพวกเขาต้องพ้นจากตำแหน่ง ได้รับคำตอบว่า เพราะกลุ่มของนายสมคิด ผิดคำ มั่นสัญญาในการเสนอช่ือให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆมาแต่ต้น และไม่ดำเนินการตามมติพรรคหลายอย่าง รวมถึงไม่ดำเนินการตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีมีคำส่ังไปหลายอย่าง ขณะเดียวกันยังโยนความรับผิดชอบเรื่องการทำหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบแต่ผู้เดียวด้วย
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า เหตุใดจะต้องปรับครม. หรือ เปลี่ยนม้ากลางศึกในระหว่างที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ระบบเศรษฐกิจจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขต่อเนื่อง ก็ได้รับคำตอบจากแกนนำพรรคพปชร.ว่า การสามารถชะลอ และหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ให้กระจายไปท่ัวประเทศสำเร็จ เป็นผลงานของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกรณีของการแก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจประเทศนั้น
ยังไม่เป็นที่ปรากฏว่า กลุ่มของนายสมคิด เตรียมการรับมืออย่างไรต่อการฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยไม่ให้ตกเหวหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยุติลง ที่สำคัญก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะสามารถแก้ไขให้หมดไปได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลาเป็นปี ทำให้เกิดช่องว่างที่จะต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในช่วงเวลาเช่นนี้ และวางมาตรการให้เร็วที่สุด แต่ตรงกันข้าม ทีมของนายสมคิด และนายอุตตม ซึ่งคุมกระทรวงการคลัง กลับมีข้อพิพาทกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆอยู่ตลอดจนไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หรือทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้รับความร่วมมือได้
“อย่างที่คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยมาตลอดเวลาว่า นายสมคิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร มาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะหลังการจัดตั้งครม.ครั้งที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนว่า ทั้งนายสมศักดิ์ และนายสุริยะ นั้นถูกหลอกใช้มาตลอด แม้ทั้งสองจะสนิทสนมกับนายสมคิดมาก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถปล่อยให้หลอกใช้ต่อไปได้อีก”
แกนนำพรรคพปชร.กล่าวด้วยว่า การยกตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้ พล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการมาตั้งแต่ต้นแล้ว ส่วนการปล่อยข่าวว่า จะให้ พล.อ.ประวิตร มาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีแทน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ไม่เป็นความจริง ที่สำคัญ พรรคพปชร.ยังคงสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป และก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ส่วนกลุ่มของนายสมคิด รวมทั้ง 4 กุมารจะเสนอให้เก็บของกลับบ้านไปเสียเนื่องเพราะกลุ่มคนที่จะนำเสนอแก้ปัญ หาเศรษฐกิจอาจถูกขัดแข้งขัดขาอีก จนไม่สามารถจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่างๆได้
สำหรับบุคคลที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในการปรับครม.อาทิ นายอนุชา นาคาศัย เป็นรมว.อุตสาห กรรม ,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรมว.กระทรวงพลังงาน ,นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังคงอยู่กระทรวงยุติธรรม กระนั้นก็ตาม มีกระแสข่าวว่า นายสมศักดิ์ อาจให้ตำแหน่งนี้แก่ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายและเคยอยู่ในวงการศาลสถิตย์ยุติธรรมมาก่อน
ส่วนรมว.กระทรวงการคลัง แกนนำพรรคพปชร.ไม่ได้นำเสนอนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นรมว.คลัง หากแต่อาจจะเป็นโควต้าของนายกรัฐมนตรีเอง ที่จะเสนอ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร หรือ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นรมว.คลัง แทนนายอุตตม กระนั้นก็ตาม แกนนำพรรคพปชร.ก็ยังไม่เห็นด้วยว่า ทั้งสองคนจะเหมาะสมกับการดำ รงตำแหน่งสำคัญนี้ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจหลังโควิด-19 จะเป็นเศรษฐกิจที่ต้องปรับตัวขนาดใหญ่ อาจจำเป็นต้องคิดใหม่ทำใหม่ และหาคนใหม่ๆเข้ามาทำหน้าที่นี้
