วันที่ 20 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ทวีตข้อความแสดงความเห็นถึงกรณีสถานการณ์โควิดในประเทศไทย โดยระบุว่า เมื่อ 17 มี.ค. ได้พูดเวทีสัมมนาของประชาชาติธุรกิจถึง 1 ใน 3 วิธีทีจะกู้เศรษฐกิจได้คือ ต้องให้เอกชนนําเช้าแล้วเร่งฉีดวัคซีนโดยเร็ว
ผู้บริหารของแสนสิริ ระบุด้วยว่า “กว่าเดือนแล้ว ปัญหาหาโถมเข้าใส่จากการระบาดรอบ 3 ยังไม่มีแผนชัดเจน จับต้องได้ ขอเรียกร้องอีกครั้งครับ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้ว ชีวิตคน 60 ล้าน…เสี่ยง”
นายเศรษฐาได้ทวีตข้อความเพิ่มถึงนายกรัฐมนตรีเพิ่มด้วยว่า ได้ขอร้องเรื่องอย่าการ์ดตก ทํางานที่บ้าน ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ
“ผมว่าคนไทยเมื่อเปรียบเทียบกับชาติอื่นมีวินัยและจิตสำนึกสูง เราถึงได้มีอัตราติดเชื้อต่ำในอดีต พวกเราได้ทำหน้าที่เราแล้ว ขอให้ท่านทำในสิ่งที่ท่านต้องทำ คือ โดยทุกทาง วัคซีนทั่วถึงครอบคลุมโดยเร็ว”
สำหรับ คำกล่าวของนายเศรษฐา ที่กล่าวไว้ในงานสัมนา “วัคซีนเศรษฐกิจ วัคซีนประเทศไทย” เมื่อวันที่ 17 มี.ค.จัดโดย ประชาชาติธุรกิจ ถึง 3 เข็ม ที่จะฉีดให้แก่ประเทศไทย
1.วัคซีนเข็มที่ 1 ที่จำเป็นต้องฉีดโดยเร่งด่วน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลดความขัดแย้ง คลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง ให้คนทุกเจนเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะได้ไม่เป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เศรษฐกิจเดินหน้า
2.วัคซีนเข็มที่ 2 ผมเชื่อว่าไทยถือว่าเป็นประเทศใหญ่ประเทศหนึ่งในโลก ประเทศที่ต้องพึ่งการท่องเที่ยว การลงทุนอย่างสูง การฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางในเวลาที่รวดเร็วที่สุด อยากขอให้เอกชนมีการนำเข้าวัคซีนในชนิดที่ได้รับการอนุมัติจาก อย. แล้ว ถ้ารัฐบาลนำเข้ามาฉีดได้ เอกชนก็ควรที่จะนำมาฉีดได้ เพื่อให้เกิดการฉีดอย่างกว้างขวาง
3.วัคซีนเข็มที่ 3 คือ แก้ไขที่ประสบปัญหาอยู่ จุดโฟกัสอยู่ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นองค์ประกอบใหญ่ของเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยว หลาย ๆ อย่างยังไม่ได้รับการเยียวยา รัฐบาลมีมาตรการที่กำลังจะคลอดออกมา ไม่ว่าจะเป็นแอสเสซ แวร์เฮาซิ่ง หรือโกดังพักหนี้
