“เศรษฐา” ซัด ”ประยุทธ์-พรรคอื่น” แซะเติมเงิน 1 หมื่น เพราะกลัวนโยบายโดนใจประชาชน

  • สงสัยทำไมคนยังตะแบงอวยว่าสุจริต
  • ทั้งที่ดัชนีทุจริตทรุดต่ำที่สุด

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดน่าน ว่า เป็นการขึ้นเวทีครั้งแรกหลังจากได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเข้าท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เกิดมา 61 ปีเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาถือเป็นเกียรติประวัติสูงที่สุดในชีวิตและคิดว่าจะสามารถทำความฝันของชาวน่านและชาวไทยทุกคนให้เป็นจริงโดยนำพาชาวไทยหลุดจากหลุมดำของความยากจน 8 ปีที่ผ่านมาพอหรือยังกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ตนเป็นคนไม่ก้าวร้าวเป็นคนสุภาพ แต่ตนสงสัยว่าทำไมคนตะแบงว่า พล.อ.ประยุทธ์สุจริตตนก็ไม่เข้าใจว่าสุจริตตรงไหนเพราะดัชนีทุจริตในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทรุดต่ำลงเรื่อยๆ ตรงนี้เชื่อว่าเขาตะแบงต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้จึงอยากจะเน้นเรื่องความทุจริตของรัฐบาลที่ผ่านมา

จากนั้นนายเศรษฐา ได้เน้นย้ำถึงนโยบายเติม 10,000 บาทในกระเป๋าดิจิทัลซึ่งบางครอบครัวมี 4-5 คนก็ได้เงิน 4-5 หมื่นบาท สามารถไปตั้งตัวทำอาชีพใหม่ได้เลย ไม่ใช่รัฐบาลปัจจุบัน ที่ทยอยหยอดน้ำข้าวต้มครั้งละ 500 หรือ 1000 ซึ่งมันน่าเบื่อ แต่เพื่อไทยให้ครั้งเดียวเลย 10,000 บาทซึ่งจะสามารถทำให้เราสามารถหลุดพ้นจากหลุมดำของความยากจนได้ แต่เมื่อประกาศนโยบายไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทุกวันพรรคอื่นพูดแต่เรื่องนี้ตลอด ค่อนแคะกระแหนะกระแหนว่าจะทำได้หรือไม่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดถึงนโยบายคนอื่น เพราะไม่โดนใจเหมือนนโยบายของพรรคเพื่อไทย เขาจึงกลัว ดังนั้นจึงไม่ต้องไปฟังที่อื่นพูดว่าจะทำได้หรือไม่ รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเขาไม่เข้าใจก็ปล่อยเขาไป

นอกจากนี้จะเสนอให้เมืองน่านเป็นมรดกโลกเป็นเมืองคู่แฝดกับหลวงพระบางของ สปป.ลาว ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะแห่แหนเข้ามาเป็นจำนวนมาก และผลักดันให้สนามบินน่านเป็นสนามบินนานาชาติ