“ไฮสปีดเทรน” เจอโรคเลื่อน เซ็นสัญญา 25 ต.ค.นี้

“ศักดิ์สยาม” สะดุดขาตัวเองเลื่อนเซ็นสัญญาไฮสปีดเชื่อม3สนามบินจากเดทไลน์ 15 ตุลานี้ออกไป เหตุบอร์ดรถไฟลาออกยกชุด พร้อมเร่งแก้ปัญหาเสนอ ครม.ด่วน!ตั้งบอร์ดชุดใหม่สัปดาห์หน้า มั่นใจเซ็นสัญญาซีพีแน่ในสิ้นเดือนตุลาแน่นอน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีเอกสารแนบท้ายสัญญาโครงการดังกล่าว ขัดกับข้อกำหนดเอกสารคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal หรือ RFP)ขณะเดียวกันยังได้ขีดเส้นที่จะให้กลุ่มกิจการร่วมค้า กลุ่มซีพี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ผ่านการพิจารณา ต้องมาเซ็นสัญญาภายในวันที่ 15 ต.ค.หากไม่มาเซ็นสัญญาตามกำหนดจะต้องถูกริบหลักประกันซอง และอาจถูกพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งทำให้ต้องถูกแบล็คลิสต์รับงานในอนาคตแล้วนั้น

ล่าสุดแนวทางต่างๆที่ได้พยายามแก้ไขมาโดยตลอดนั้น กลับมามีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้การเซ็นสัญญาในโครงการฯจากเดิมกำหนดว่าจะต้องเซ็นในวันที่ 15 ต.ค.2562 จะต้องเลื่อนออกไป เป็นวันที่ 25 ต.ค.นี้แทนเนื่องจากขณะนี้ทางคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้ยื่นหนังสือลาออกทั้งชุดไปเมื่อวันที่1 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้หากมีการลงนามตามกำหนดการเดิมในวันที่ 15 ต.ค.นี้จะส่งผลให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะทันที เนื่องจากหากไม่มีบอร์ด รฟท. สัญญาจะไม่มีผลผูกพันธ์กับรถไฟทันที ซึ่งจากกรณีดังกล่าว จึงถือเป็นสิทธิที่ผู้ว่าจ้าง คือ รฟท.สามารถที่จะแจ้งเลื่อนวันเซ็นสัญญาได้ สาเหตุมาจากความจำเป็น

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการเสนอรายชื่อบอร์ด รฟท.ชุดใหม่ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) แล้ว โดยเป็นการเสนอรายชื่อคู่เทียบไปให้สคร.พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งนี้ผู้เสนอไม่มีอำนาจไปกำหนดว่าจะเลือกใคร อย่างไรก็ตามเมื่อสคร.พิจารณาแล้วเสร็จ จะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เพื่อเห็นชอบ จากนั้นจะส่งกลับมาให้กระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อให้ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า โดยในเรื่องนี้ นายศักดิ์สยาม คาดว่าแม้ว่าจะมีเวลากระชั้นชิดแต่อย่างไรก็มั่นใจว่าเมื่อได้บอร์ด รฟท.ชุดใหม่แล้วจะยังคงเดินหน้าเซ็นสัญญากับกลุ่มซีพีได้ทันภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเสนอของกลุ่ม CPH (ซีพี) พบว่ามีราคา Net Present Value (มูลค่าปัจจุบันสุทธิ) อยู่ที่ 117,227 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าข้อเสนอของทางกลุ่ม BSR ที่เสนอมาในมูลค่า 169,934 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราว 52,707 ล้านบาท อีกทั้งยังต่ำกว่ากรอบวงเงินที่ ครม.มีมติอนุมัติให้รัฐร่วมลงทุนในโครงการ ในวงเงินมูลค่าปัจจุบันไม่เกิน 119,425 ล้านบาท