“ชลน่าน”เผย“เพื่อไทย”ไม่เห็นด้วย “ก้าวไกล”ยื่นแก้ม.272ปิดสวิตช์ส.ว.อาจงดออกเสียง หวั่นเสนอ”พิธา”รอบสองอาจแพ้เสียงข้างน้อยนั่งนายกฯ
- 19ก.ค.เสียงข้างน้อยมีสิทธิที่จะส่งแคนดิเดตนายกฯมาแข่ง
- ขั้วตรงข้ามชนะก็เหมือนเราผลักความหวังของประชาชนไปให้เสียงข้างน้อย
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ว่า ในวันนี้(17ก.ค.)เวลา 15.00น.กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีนัดหมายหารือกับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลนำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในประเด็นการเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมสภาในวันที่ 19 ก.ค.นี้ หลังจากนั้นในเวลา 17.00น.จะหารือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน และจะนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 18 ก.ค.2566ต่อไป
สำหรับประเด็นการเสนอแก้มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ส.ว.ไม่ให้โหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลนั้น ไปสอดคล้องกับผู้นำจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกล ประเด็นนี้ขอเรียนตรงๆว่าพรรคเพื่อไทยไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะการได้มาซึ่งการโหวตนายกรัฐมนตรีเราถือว่าเป็นเรื่องหลักเลย การจะได้รับการยอมรับหรือชัยชนะจะต้องมาจากส.ว.เป็นหลัก แต่กลับไปใช้วิธีการที่ส.ว.เห็นว่าย้อนแย้งกับการแสวงหาคะแนนจากเขา ซึ่งเราไม่เห็นด้วยทั้งเรื่องระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมและจะเกิดปัญหาขึ้นมา มีความเห็นต่างในกระแสสังคมจำนวนมาก และอาจจะเป็นเงื่อนไขทำให้การเลือกนายกรัฐมนตรีมีความแปรปรวนไป ซึ่งการแก้มาตรา 272ทางพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยอาจจะต้องถึงขั้นงดออกเสียง แต่อย่างไรก็คงต้องไปหารือกันในพรรคก่อน
ส่วนการที่จะเสนอชื่อนายพิธา เพื่อให้โหวตรอบที่ 2 วันที่ 19ก.ค.นี้นั้น ซึ่งก็ทางพรรคก้าวไกลยังยืนยันที่จะเสนอชื่อนายพิธาอีกครั้งหนึ่ง พรรคเพื่อไทยมีข้อห่วงใย 2 เรื่อง 1.เสียงที่จะได้จะพอไหมต้องได้จำนวน 375 คะแนน และจะได้มาอย่างไร ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะได้มาอย่างไร ยุทธศาสตร์ที่ใช้คือการแก้มาตรา 272 เพื่อเป็นการรณรงค์ 2.สังเกตว่าส.ว.จะปิดกั้นการโหวตและยกข้อบังคับขึ้นมาใช้ ได้บอกพรรคก้าวไกลว่าต้องไปช่วยกันเตรียมการ เพราะส.ว.ยกขึ้นมาแน่ โดยจะยกข้อบังคับข้อ41 เรื่องยื่นญัตติซ้ำมาใช้แน่ สุดท้ายอาจจะต้องส่งศาลตีความ
“ข้อห่วงใยในการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 19ก.ค.อีกประเด็นคือ เสียงข้างน้อยมีสิทธิที่จะส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาแข่ง ซึ่งไม่ทราบว่าจะส่งใคร บางสื่อไปเขียนว่าจะส่งพล.อ.ประวิตร ผมไม่ได้ระบุขนาดนั้น ถ้าเขาส่งเราจะมีหลักประกันอะไรที่จะทำให้เขาไม่ชนะ ถ้าเราชนะก็จบ แต่ถ้าเราไม่ชนะได้เสียงไม่เพิ่ม เพิ่มนิดหน่อย หรือลดลง อีกฟากหนึ่งเขาจะชนะไหม ทั้ง2พรรคต้องถามตัวเอง พรรคก้าวไกลก็บอกว่าเขาไม่มีหลักประกันว่าจะชนะหรือไม่ชนะ ผมเลยบอกแบบนี้ต้องคิดให้หนัก เราลำบากนะ ถ้าคาดการณ์ว่าเขาชนะเราแน่ ก็เหมือนเราผลักความหวังของประชาชนไปให้เสียงข้างน้อย ที่บอกมาว่าจะไม่เอาลุง ก็แค่เป็นวาทกรรม” นายแพทย์ชลน่านกล่าว
