เปิดใจ“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”ผู้ว่าการ ททท.คนใหม่

  • .ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการคนใหม่ททท.เปิดแผนเชิงรุก“ตลาดไทย-ต่างชาติ”ปี’67 ปั๊มรายได้2.4-3 ล้านล้านบาท
  • .จัดทัพขายมหกรรม Thailand All Year Round เมืองไทยเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
  • .ลุยแผนเร่งด่วน 3 เรื่อง “หนุนข้อมูลวีซ่าต่างชาติเข้าไทย-ชูจุดขาย The Link Local to Global-ปลดล็อกอุปสรรคการแข่งขันของเอกชน”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “JNC :The Journalistclub” ว่า ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.คนใหม่โดยได้เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 ตามสัญญาจ้าง 4 ปี (ระหว่างปี 2566-2570) จะเร่งเดินหน้ากระตุ้นรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะชูจุดแข็งของประเทศไทยทำให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปีหรือ “Thailand All Year Round” ถือเป็นกุญแจไฮไลต์สู่ความสำเร็จโดยมีต้นทุนหลักทางทรัพยากรธรรมชาติ บุคลากร ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากจะสามารถสร้างจุดขายขายการท่องเที่ยวของได้ตามเป้าหมายต่อเนื่องปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งสิ้น 2.4-3 ล้านล้าบาท

พร้อมทั้งเตรียมใช้กลยุทธ์ทำคู่ขนานกันทันทีทั้ง “Reboot และ Bounce back” หรือการเริ่มเดินเครื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมืองไทยครั้งใหม่และการฟื้นกลับคืนสู่ปกติ หลัง ททท.ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่นำพาท่องเที่ยวผ่านพ้นวิกฤตสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มาได้อย่างปลอดภัย กลยุทธ์ดังกล่าวจะสร้างแตกต่างจากอดีตแต่ละครั้งเมื่อต้องทำเรื่องใหม่ทางการท่องเที่ยวมักจะเริ่มต้นปลุกกระแสจากตลาดในประเทศก่อนเพื่อดึงดูดตลาดต่างประเทศไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามความนิยมของคนในประเทศ

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ในระยะเร่งด่วนจะเพิ่มความเข้มข้นตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลใหม่ ประกาศนโยบายนำการท่องเที่ยวเป็นพลังกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ททท.ก็พร้อมเดินหน้าทันที เนื่องจากเพิ่งประชุมแผนตลาดประจำปีงบประมาณ 2567 เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา แล้วจะเริ่มนำแผนมาปฏิบัติใช้อย่างจริงจังเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งมีสำนักงานดูแลพื้นที่ทำกิจกรรมส่งเสริมตลาดและการขายท่องเที่ยว “ตลาดในประเทศ” อยู่ถึง 45 สำนักงาน ใน 77 จังหวัด ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” ก็มี ททท.ดูแลทั่วโลก 29 สำนักงาน ทุกสำนักงานพร้อมใจกันทำงานเชิงรุกด้วยวิธีบูรณาการกับทีม ไทยแลนด์ สถานฑูต สถานกงศุล และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ทุ่มทำกิจกรรกระตุ้นตลาดออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยด้วยประสบการณ์ที่มีความหมายและคุณค่า (meaningful travel) ได้ตลอดทั้งปี 

ททท.พร้อมจะทำภารกิจเร่งด่วนให้สอดคล้องกับแผนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศและทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป นำร่องด้วย 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 

เรื่องที่ 1 ปลดล็อกการเดินทางของตลาดต่างประเทศทั่วโลกซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงฤดูท่องเที่ยว (high season) ปลายปี 2566 เช่น การทำวีซ่าททท.จะเร่งสนับสนุนเรื่องข้อมูลต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยกระตุ้นตลาดสำคัญให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลใหม่

เรื่องที่ 2 ใช้พลังไทยแลนด์ ซอฟท์ เพาเวอร์ เป็นจุดขายการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ วางแผนใช้โครงการ The Link  ตามที่ ททท.ปูพรมทำต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ 2566 ด้วยการนำประสบการณ์ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นหรือ Local Experience ติดอาวุธการตลาดด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยได้รักษาและสานสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่น ชุมชนเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทุกกลุ่มไว้ได้เป็นอย่าง จากนี้เป็นต้นไปจะนำมาเป็นองคาพยพหลักใช้โปรโมทการท่องเที่ยวจากท้องถิ่นสู่ตลาดโลกตามคอนเซ็ปต์ The Link Local to Global เป็นพลังขับเคลื่อนรายได้เข้าประเทศให้ได้ตามเป้าหมายทั้งของ ททท.และรัฐบาล

เรื่องที่ 3 ททท.จะเข้าไปช่วยผลักดันเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางแข่งขันของเอกชนทำตลาดการขายท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ในเวทีระดับนานาชาติครอบคลุมกลุ่มพื้นที่เป้าหมายทั้งการท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติเที่ยวเมืองไทยซึ่งมีทั้งนักเดินทางระยะใกล้ (shorthaul) จาก อาเซียน เอเชียและแปซิฟิกใต้ และตลาดระยะไกลข้ามทวีป (longhaul) ทั้งยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง อเมริกา แคนาดา เพื่อเพิ่มรายได้ตลอดการพำนักอยู่ในไทย ทั้งวันพักและค่าใช้จ่ายมากขึ้นต่อไป 

สำหรับเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปีงบประมาณ 2567 ที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567 ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 2.4-3 ล้านล้านบาท  แบ่งเป็น 

ส่วนที่ 1 ตลาดต่างประเทศ 1.54-1.92 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 28-35 ล้านคน เพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ 54,800 บาท/คน/ทริป  พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายและตำแหน่งทางการตลาดโดยจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเข้าไทยให้ได้สูงสุดติด 1 ใน 5 ของโลก  

ส่วนที่ 2 ตลาดในประเทศ จะทำรายได้ไทยเที่ยวไทย 8.6 แสนล้านบาท – 1.08 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 158-200 ล้านคน-ครั้ง กระตุ้นนักท่องเที่ยวในประเทศใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 4,000 บาท/คน/ทริป โดยได้สร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวจากผู้เยี่ยมเยือนคนไทยจะต้องสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 36 %  

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen