วันที่ 18 ส.ค.2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 20,515 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 20,498 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 16,520 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 3,730 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 248 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 17 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 968,957 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 312 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 8,285 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 22,682 ราย รวมยอดรักษาหาย 753,338 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 207,553 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.51,551 ราย ในรพ.สนาม 156,002 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 5,4,58 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 1,155 ราย
เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 18 ส.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 20,515 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 940,094 ราย รักษาหายเพิ่ม 22,682 ราย รวมรักษาหายแล้ว 725,693 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 207,553 ราย เสียชีวิต 312 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 8,191 ราย
ยอดผู้เสียชีวิต จำนวน 312 ราย เป็นเพศชาย 174 ราย เพศหญิง 138 ราย อายุ 28-102 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 78 ราย และจังหวัดอื่นๆ โดยมีรายละเอียด อาทิ สมุทรปราการ 25 ราย สมุทรสาคร 17 ราย ปทุมธานี 18 ราย ลพบุรี 25 ราย ชลบุรี 20 ราย เป็นต้น และเป็นการเสียชีวิตที่บ้าน 3 ราย นอกจากนี้ยังพบหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตด้วย 2 ราย นอกจากนี้ยังพบว่ามีเด็กอายุ 0-20 ปี มีอัตราเสียชีวิตเพิ่มขึ้นโดยตั้งแต่14 พ.ค.-16 ส.ค.64 พบเสียชีวิตแล้ว 19 ราย
โดยพบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคปอด หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากที่อาศัยและเดินทางไปในพื้นที่ระบาดถึง 139 ราย และเป็นการติดจากคนในครอบครัว 47 ราย และคนอื่นๆ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน คนรู้จัก 90 ราย ซึ่งยังมากเช่นเดิม
