เปิดข้อกฎหมายหากพรรคการเมืองถูกตัดสินยุบพรรคจะเกิดอะไรขึ้น?

พรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรค กรรมการบริหารของพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง   ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองภายในกําหนดสิบปี

ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคําร้องกกต. กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ถูกร้อง เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จํากัด (มหาชน) ซึ่งข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2560 ได้ระบุว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา98(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับคําร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย พร้อมลงมติ 7:2 ให้ “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่สส.เมื่อวันที่ 19ก.ค.ที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายคดีที่ถูกร้อง ฐานความผิดอาจถึงขั้นต้องยุบพรรค ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นเช่นไรคงไม่อาจทราบได้และไม่อาจก้าวล่วงอำนาจของศาล

The Journalist Club ได้เปิดดูข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หมวดที่8 ที่ได้กำหนดถึงการสิ้นสุดของพรรคการเมืองไว้ 3 กรณีคือ ตามมาตรา 90พรรคการเมืองสิ้นสุดลงเมื่อ (1) สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา 91 (2) ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองตามมาตรา 92 (3) มีการควบรวมพรรคการเมืองตามหมวด 9 การควบรวมพรรคการเมือง

สามารถแยกออกเป็นดังนี้

มาตรา 91 พรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองเมื่อ

(1) ไม่แก้ไขข้อบังคับให้ถูกต้องหรือครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนดตามมาตรา 17

วรรคสาม หรือไม่สามารถดําเนินการตามมาตรา 33(1) หรือ (2) ได้ภายในระยะเวลาที่กําหนด

(2) ภายหลังจากที่ได้รับการจดทะเบียนพรรคการเมืองมีจํานวนสมาชิกเหลือไม่ถึงตามที่กําหนด

ในมาตรา 33 (1) ติดต่อกันเกินเก้าสิบวัน

(3) ภายหลังจากที่ดําเนินการครบตามมาตรา 33 (2) มีจํานวนสาขาพรรคการเมืองเหลือไม่ถึง

ภาคละหนึ่งสาขาเป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปี

(4) ไม่มีการประชุมใหญ่พรรคการเมืองหรือไม่มีการดําเนินกิจกรรมใดทางการเมือง

เป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปีโดยมิได้มีเหตุ อันจะอ้างได้ตามกฎหมาย

(5) ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปสองครั้ง

ติดต่อกันหรือเป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน สุดแต่ระยะเวลาใดจะยาวกว่ากัน

(6) มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย

(7) พรรคการเมืองเลิกตามข้อบังคับ

เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนหรือมีผู้แจ้งต่อนายทะเบียนว่าพรรคการเมืองใดสิ้นสภาพตามวรรคหนึ่ง

ให้นายทะเบียนดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเห็นว่ามีกรณีที่เป็นเหตุให้พรรคการเมืองสิ้นสภาพ

ตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอคณะกรรมการพิจารณา ถ้าคณะกรรมการเห็นว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น

ให้คณะกรรมการประกาศการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองนั้นในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีเช่นนี้

ให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ในกรณีที่หัวหน้าพรรคการเมืองที่ถูกประกาศว่าสิ้นสภาพตามวรรคสองไม่เห็นด้วยกับ การประกาศของคณะกรรมการตามวรรคสอง ให้ยื่นคําร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยภายใน สามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมาชิกที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ถือว่าการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองตามมาตรานี้ เป็นการถูกยุบพรรคการเมือง

มาตรา 92 เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น

(1) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ

(2) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข

(3) กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44

มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74

(4) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการ

ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

มาตรา 93 เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนว่าพรรคการเมืองใดกระทําการตามมาตรา 92 ให้นายทะเบียนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ เพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด ในการยื่นคําร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 92 คณะกรรมการจะยื่นคําร้องเอง หรือจะมอบหมายให้นายทะเบียนเป็นผู้ยื่นคําร้องและดําเนินคดีแทนก็ได้ และเพื่อประโยชน์ ในการดําเนินคดี นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจะขอให้อัยการสูงสุดช่วยเหลือ ดําเนินการในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจนกว่าจะเสร็จสิ้นก็ได้

ในกรณีที่เห็นสมควร ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้พรรคการเมืองระงับการกระทําใดไว้เป็นการชั่วคราวตามคําร้องขอของคณะกรรมการ นายทะเบียน หรืออัยการสูงสุด แล้วแต่กรณี ก็ได้

มาตรา 94 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดแล้ว ให้นายทะเบียน ประกาศคําสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นในราชกิจจานุเบกษา และห้ามมิให้บุคคลใดใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมาย ของพรรคการเมืองซ้ำ หรือพ้องกับชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น

ห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดํารงตําแหน่งกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะเหตุดังกล่าว ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ทั้งนี้ภายในกําหนดสิบปีนับแต่วันที่ พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ