- เปิดอบรมโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออก
- คาดปีนี้ผลผลิต 1.3 ล้านตัน
- สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท
นายภัชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้สั่งการให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร จัดประชุมชี้แจงสร้างการรับรู้แนวทางการส่งออกผลไม้ฤดูกาลผลิตปี 2565 แก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออก หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
ทั้งนี้ เพื่อวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ไปจีนและป้องกันผลผลิตด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจหลักเกณฑ์กฎระเบียบและขั้นตอนของเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรในการตรวจติดตาม รวมถึงเฝ้าระวังและควบคุมการส่งออกให้เป็นทิศทางเดียวกัน
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาผลผลิตลำไยของจันทบุรีมีปัญหาตรวจพบศัตรูพืชทำให้จีนระงับนำเข้าลำไยจากโรงคัดบรรจุที่ได้รับการแจ้งเตือน โดยทางการจีนขอให้กรมวิชาการเกษตรระงับส่งออกชั่วคราวกับโรงคัดบรรจุที่ถูกแจ้งเตือนดังกล่าว เพื่อสอบสวนสาเหตุ ดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดอีกในฤดูกาลส่งออกทุเรียนและมังคุดของจันทบุรี
ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกในปี 65 กรมฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุพื้นที่ภาคตะวันออก โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนมังคุด และสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ฝึกอบรมมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุให้ผู้ประกอบการและผู้ควบคุมคุณภาพประจำโรงคัดบรรจุ 400 คน
รวมทั้งจัดทำคู่มือและคลิปวีดิโอ การบริหารจัดการโรงคัดบรรจุที่ถูกต้องตามมาตรฐานและมาตรการป้องกันโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุ เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุนำไปปฏิบัติได้ถูกต้อง
สำหรับข้อมูลการเพาะปลูกไม้ผลในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด มีการปลูกไม้ผลส่งออกที่สำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุดและลำไย พื้นที่รวมกว่า 7 แสนไร่ คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผลผลิตส่งออก 1.3 ล้านตัน ทำรายได้เข้าประเทศเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยลำไยอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว
