เกษตรกรแห่มารัก“ลุงตู่”หลังราคา”ข้าว-ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน” ขึ้น

  • รัฐบาล “ประยุทธ์1”เฮ!ข้าว-ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน ราคาขึ้น
  • “สมคิด”รีบเคลมเป็นผลงาน
  • แก้ปัญหาปาล์มน้ำมันได้ยั่งยืน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นาย กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ขณะนี้ทั้งราคาข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ได้ปรับตัวขึ้นจากการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า มาตรการเข้าซื้อยางพาราในราคานำตลาดส่งผลให้ขณะนี้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ราคา 60.05 บาท/กก. ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าในอดีตในช่วงหลายปีหลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการ และเชื่อว่าอนาคตราคาก็จะสามารถขยับตัวสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาข้าวอยู่ในระดับที่ชาวนารับได้ ปีนี้ไม่มีปัญหา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการผลผลิตและราคาได้เป็นที่พอใจ


สำหรับราคาปาล์มน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมา เป็นผลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 200,000 ตัน มาผลิตไบโอดีเซลเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า แต่ในที่สุดซื้อแค่ 60,000 ตัน และดันราคาปาล์มขึ้นมาได้ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้เป็นการแก้แบบยั่งยืน เพราะต่อไปการผลิตไบโอดีเซลแบบ บี 10 และ บี 20 ต้องใช้น้ำมันปาล์มดิบอยู่ตลอด เป็นการซื้อชี้นำตลาดได้ ก็จะทำให้ราคาดีขึ้นเรื่อยๆจากเดิมที่ราคาไม่กระดิกเลยจึงถือว่านโยบายนี้ใช้ได้ผล

อย่างไรก็ตาม ที่จะต้องปรับตัวต่อไปคือปั้มก๊าซเอ็นจีวี ที่เดิมเกิดขึ้นมาได้จากที่ราคาน้ำมันแพง แต่ตอนนี้ น้ำมันไบโอดีเซลมีต้นทุนที่ถูกกว่าอนาคตปั๊มเอ็นจีวี ก็คงต้องปรับตัวไปตามกลไกการตลาด

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ครม.รับทราบผลการรายงานราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกและมาตรการของรัฐบาล โดยเฉพาะ ยางพารา และราคาปาล์มน้ำมัน โดยราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการที่การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) และการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อเข้าไปซื้อยางพาราในราคานำตลาด จากในอดีตเกษตรกรชาวสวนยางจะขายยางให้กับผู้ส่งออกเท่านั้น

ทั้งนี้ ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นจากมาตรการซื้อนำตลาดของ กยท.และกลุ่มเกษตรกร และยังมีมาตรการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ ให้มากขึ้น จากอดีตไทยใช้ยางพาราในประเทศ เพียง 500,000 ตัน/ปี หรือสัดส่วน 14% ของผลผลิตยางพาราในประเทศ ปีนี้มีการใช้ยางในประเทศเพิ่มเป็น 800,000 ตัน/ปี สหรือสัดส่วนเพิ่มเป็น 17% ของผลผลิตยางพาราทั่วประเทศ และการส่งออกผลผลิตยางของไทยมีประมาณ 4 ล้านตัน/ปี

ส่วนราคาผลปาล์มดิบราคาปรับเพิ่มขึ้น 3.30 -3.50 บาท/กก. ราคาน้ำมันดิบ(ซีพีโอ) อยู่ที่ราคา 19.75-20 บาท/ลิตร จะสังเกตุได้ว่าราคาน้ำมันดิบสะท้อนราคาผลปาล์มมากขึ้น แตกต่างจากอดีตที่ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ำไม่สะท้อนราคาน้ำมันปาล์มดิบแต่อย่างใด