“ออริจิ้น -ผนึกรัฐ-เอกชน” สร้างต้นแบบ“สมาร์ทซิตี้” แห่งแรกใจกลางเมืองระยอง

  • รัฐบาลติดเครื่องสร้างต้นแบบเมืองอัจฉริยะในพื้นที่EEC 
  • “ออริจิ้น” จับมือภาครัฐ-เอกชนเนรมิต“Origin Smart City Rayong” 
  • สร้างแลนด์มาร์คใหม่สู่“Lifestyle Hub” 

นายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยองในฐานะประธานพิธีเปิดโครงการOrigin Smart City Rayong กล่าวว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะหรือSmart Cityถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเมืองอย่างชาญฉลาดกระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาคสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนโดยพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งประกอบด้วย3 จังหวัดได้แก่ระยองชลบุรีฉะเชิงเทราถือเป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกที่รัฐบาลเดินหน้าสร้างต้นแบบSmart City อย่างจริงจังโดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้เกิดขึ้นจริงอาทิสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(ดีป้า) ตลอดจนสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทยซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน

“ภายใต้โรดแมปสมาร์ทซิตี้ภาครัฐมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้ทั่วประเทศจำนวน100 แห่งภายในปี2565 โดยปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถยื่นขอให้โครงการเดิมและโครงการที่กำลังจะพัฒนาได้รับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะต้นแบบกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยโดยวันนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งในผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีความประสงค์จะพัฒนาโครงการออริจิ้นสมาร์ทซิตี้ระยองให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบแห่งแรกในจังหวัดระยองร่วมตอบสนองนโยบายของรัฐบาลให้เป็นจริงพร้อมทั้งสร้างแลนด์มาร์คใหม่อีกแห่งหนึ่งในEEC” นายอินทรีย์กล่าว

ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน) หรือORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรกล่าวว่าบริษัทมุ่งมั่นจะพัฒนาโครงการออริจิ้นสมาร์ทซิตี้ระยอง(Origin Smart City Rayong)บนที่ดินกว่า24 ไร่บริเวณสี่แยกเนินสำลีถ.สุขุมวิทจ.ระยองให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบเนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของระยองว่าเป็นจังหวัดที่จะสามารถเติบโตถึงขั้นเป็นNew CBD จึงได้ร่วมกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำหลายรายที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆมาช่วยเติมเต็มให้ทั้งโครงการกลายเป็นสมาร์ทซิตี้และสมาร์ทแพลทฟอร์มไปพร้อมกันได้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) บริษัททรูคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย(KBank) คอตโต้และคลาสคาเฟ่(CLASS CAFÉ) มาร่วมเนรมิตโครงการมิกซ์ยูสมูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาทแห่งนี้ให้สามารถทรานส์ฟอร์มการใช้ชีวิตสู่สังคมแห่งอนาคตภายใต้คอนเซ็ปต์“Beyond A Living Platform”

พีระพงศ์ จรูญเอก

“PEA ได้ให้ความร่วมมือด้านSmart Ecoทำให้โครงการมีการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในขณะที่ทรูคอร์ปอเรชั่นร่วมมือด้านSmart Techวางโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานของโครงการให้พร้อมรองรับ5G  ส่วนคลาสคาเฟ่จะมาช่วยส่งเสริมด้านSmart Communityที่มาพร้อมร้านกาแฟและCo-Working Space 24 ชั่วโมงอีกทั้งภายในโครงการต้องการสร้างไลฟ์สไตล์ฮับแห่งใหม่ของระยองเราและพันธมิตรจะร่วมกันทำให้ที่นี่เป็นเมืองต้นแบบอัจฉริยะตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตเติมเต็มศักยภาพจังหวัดระยองให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นนับเป็นการสร้างเมืองใหม่เพื่อตอบสนองการพัฒนาของภาครัฐในขณะเดียวกันยังเป็นเมืองต้นแบบด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างคุ้มค่าด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นพร้อมสู่การเป็นย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่หรือNew CBD ใจกลางเมืองระยอง” นายพีระพงศ์กล่าว

ด้านนายอรุช ช่างทอง กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจในEEC บริษัทออริจิ้นกล่าวว่าแผนการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ออริจิ้นสมาร์ทซิตี้ระยอง(Origin Smart City Rayong) มูลค่าโครงการรวมกว่า1 หมื่นล้านบาทประกอบด้วยคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, ร้านกาแฟชั้นนำอย่างCLASS CAFÉ, Co-Working Space, โรงแรมHoliday Inn Express ในเครือIntercontinental Hotels Group (IHG) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัยเป็นสังคมไร้เงินสด(Cashless Society) โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี2562 จะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมกับHome AutomationและIntelligence Facilityจำนวนรวมถึง1,234 ยูนิตมูลค่าโครงการรวมกว่า2,300 ล้านบาทได้แก่1.โครงการคอนโดมิเนียมเคนซิงตันระยอง(Kensington Rayong)เป็นอาคารLow-rise 8 ชั้น4 อาคาร697 ยูนิตมีห้องพักแบบ1 ห้องนอนและ1 ห้องนอนพลัสขนาด23.20-36.90 ตร.ม. เริ่มก่อสร้างไตรมาส4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส4/2563 

อรุช ช่างทอง

2.โครงการคอนโดมิเนียมนอตติ้งฮิลล์ระยอง(Notting Hill Rayong)เป็นอาคารHigh-rise 33 ชั้น1 อาคาร537 ยูนิตและเป็นอาคารที่สูงที่สุดในจ.ระยองให้ผู้พักอาศัยได้เต็มอิ่มกับวิวสวยที่สุด360 องศาทั้งวิวทะเลและวิวเมืองระยองพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายระดับพรี่เมียมที่เตรียมไว้ให้ภายในโครงการมีห้องพักแบบ1 ห้องนอนและ1 ห้องนอนพลัสขนาด22.50-34.80  ตร.ม. พิเศษ! Smart Mirror สำหรับExclusive Room เริ่มก่อสร้างไตรมาส4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส4/2564 ทั้ง2 โครงการจะเปิดพรีเซลพร้อมกัน28 ก.ย. นี้ในราคาเริ่มต้น1.29 ล้านบาท*

“นอกจากFacility ในอาคารที่อยู่อาศัยของตัวเองแล้วผู้พักอาศัยจะได้รับประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางของมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วยSmart Tech, Smart Eco, Smart Community ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค5.0 อาทิSmart Shelter สเตชั่นอัจฉริยะผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ผ่าน  Solar Cell ติดตั้งSmart Screen ที่สามารถเช็คสภาพจราจรเช็คอุณหภูมิสภาพอากาศและค่าฝุ่นPM 2.5  พร้อมจุดบริการBike&Scooter Sharing เชื่อมั่นว่าโครงการจะตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตจากการเติบโตของอีอีซีจากนั้นบริษัทจะทยอยพัฒนาส่วนอื่นๆของOrigin Smart City Rayong ต่อไป” นายอรุชกล่าว

สำหรับบริษัทออริจิ้น  เล็งเห็นศักยภาพทำเลระยองพัฒนาโครงการในโซนEEC กับกลยุทธ์ ทะเลสีคราม(Blue Ocean) ที่เน้นLocal Demand ด้วยการเข้าไปเป็นผู้นำตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพก่อนใครซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้กับการสร้างอาณาจักรแลนด์มาร์คใหม่โครงการออริจิ้นดิสทริคแหลมฉบัง-ศรีราชาในพื้นที่จังหวัดชลบุรี