“อนุทิน”บ่นอย่ามาหลอกให้ยากว่าไม่มีคนป่วยบนเรือสำราญ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีเรือสำราญ ขอเข้ามาเทียบท่าเรือแหลมฉบังว่า  เรื่องนี้เรามีการพิจารณาแล้ว เราไม่อนุญาตให้เข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือในประเทศไทย แต่จะให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม หากเขามีการทอดสมอในทะเลสากล และร้องขอความช่วยเหลือเข้ามา  เช่น หากต้องการอาหาร ยารักษาโรค น้ำมัน ของจำเป็นต่างๆ เราสามารถช่วยเหลือได้ หรือถ้ามีคนป่วยหนักเราก็ยินดีให้การรักษาภายใต้ระบบควบคุมโรคระบาด  อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กองทัพเรือหารือร่วมกับกรมควบคุมโรค การท่าเรือ ในการพิจารณาการช่วยเหลือ

“คืนวันที่ 11 กุมภาพันธุ์  ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกได้โทรศัพท์มาถึงผม  ยันยันว่า ทุกคนบนเรือสบายดี  ไม่มีไข้ ขอให้ไทยรับดูแล แต่ผมยังไม่เชื่อ เพราะตัวผอ.องค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้อยู่บนเรือ และผมเชื่อว่า บนเรือไม่มีอุปกรณ์ตรวจยืนยันโรคไวรัสโคโรนา 19 วันนี้ ต้องยอมรับว่า เราไม่มีข้อมูลบนเรือมากเพียงพอ จะเอาข้อมูลแค่นี้มาตัดสินใจไม่ได้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และบุคลากรเราเองก็มีจำกัด แล้วก่อนจะมาถึงไทย ผ่าน 3-4 ประเทศทำไมถึงปฏิเสธ  ส่วนที่มีการหันหัวเรือมายังท่าเรือแหลมฉบัง อาจจะเป็นเพียงการประสานเข้ามาในตั้งแต่แรก แต่จากการตรวจสอบล่าสุดไปยังการท่าเรือยืนยันว่า ยังไม่มีการอนุญาตให้เข้ามาจอดเทียบท่าในประเทศไทย” นายอนุทิน กล่าว

ส่วนที่มีคนไทยบนเรือลำนั้น 19 คนนั้น นายอนุทิน  กล่าวว่า  จากข้อมูลทราบว่า เป็นลูกจ้างบนเรือมีสัญญาจ้างคอยดูแลอยู่แล้ว  ซึ่งที่จริงบนเรือยังมีคนสัญชาติอเมริกัน 700 กว่าคน อาจจะไปในพื้นที่ที่ประเทศที่อเมริกามีประชาธิปไตย อย่างเช่น เกาะ  ทั้งนี้ ประเทศไทยเดิมที ไม่ใช่เป้าหมายของเขา แต่ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม ไม่ให้เข้า จึงจะมาขอเข้าประเทศไทย  แล้วทำไมไทยจะต้องมาแบกรับความกดดันตรงนี้  แต่อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งใดที่ไทยสามารถให้การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมได้ เราก็ไม่ลังเลที่จะทำ แต่ต้องดูว่า เราจะให้การดูแลได้มากน้อยแค่ไหน