อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม ระบายน้ำออกจากตัวเมืองย่าโมให้เร็วที่สุด

  • ระดมเครื่องสูบน้ำ 8 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง 
  • ถ้าไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม เข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3 วัน

วันนี้ (21 ตุลาคม 2564) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายวิทยา แก้วมี ผู้อำนวยการกองแผนงาน นายณัฐพล วุฒิจันทร์ เลขานุการกรม ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา และนายธีระศักดิ์ ประหยัด ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา ร่วมให้การต้อนรับและสรุปสถานการณ์น้ำ ณ สำนักงานชลประทานที่ 8 จังหวัดนครราชสีมา

นายประพิศ   เปิดเผยว่า อิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในช่วงวันที่ 16-17 ตุลาคม 2564 ประกอบกับอิทธิพลของพายุโซนร้อน “คมปาซุ” ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้ปริมาณน้ำในลำตะคองเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร-เครื่องมือ เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 8 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง บริเวณโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่ได้รับผลกระทบน้ำในลำตะคองไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นผิวถนนและพื้นที่ภายใน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้เร่งผันน้ำจากลำตะคอง บริเวณอาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ อำเภอขามทะเลสอ ไปยังลำบริบูรณ์ ปริมาณน้ำประมาณ 102 ลบ.ม./วินาที  คงเหลือปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 33.5 ลบ.ม./วินาที

พร้อมกันนี้ ได้ปิดประตูระบายน้ำคนชุม เพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่ตัวเมือง รวมทั้งเปิดประตูระบายน้ำข่อยงามทั้ง 3 บาน และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 5 เครื่อง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีก 2 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ประมาณ 50 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ ยังได้เปิดประตูระบายน้ำกันผม เพื่อเร่งระบายน้ำในลำตะคอง ช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมาลงสู่แม่น้ำมูล หากไม่เกิดฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้

ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว ปัจจุบันปิดการระบายน้ำแล้ว มีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 318 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างฯ ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกท้ายเขื่อน ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว ต.มิตรภพ ต.สีคิ้ว ต.กุดน้อย อำเภอสูงเนิน ต.มะเกลือใหม่ ต.มะเกลือเก่า ต.โคราช ต.กุดจิก ต.นากลาง ต.เสมา ต.บุ่งขี้เหล็ก ต.โนนค่า ต.โค้งยาง , อำเภอขามทะสอ ต.ขามทะเลสิ ต.โปงแดง , อำเภอเมืองนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลต.โคกกรวด เทศบาลต.หัวทะเล ต.บ้านใหม่ ต.มะเริง ต.พะเนา ต.สีมุม ต.พลกรัง  ต.พุดชา ต.ปรุใหญ่ ต.หนองกระทุ่ม ต.หมื่นไวย ต.จอทอ ต.ตลาด และต.บ้านโพธิ์ 

สำหรับอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 9.12 ล้าน ลบ.ม. แนวโน้มลดลง มีน้ำไหลลงอ่างฯ 4.60 ล้าน ลบ.ม./วัน ระบายน้ำลงลำน้ำเดิมและทางระบายน้ำล้นรวม 4.53 ล้านลบ.ม. หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม พื้นที่ท้ายอ่างฯ ที่ได้รับผลกระทบจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7 วัน ส่วนด้านอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อำเภอโนนไทย ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 24.54 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ 22.39 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านท้ายวันละ 23.46 ล้าน ลบ.ม. 

“ ได้กำชับให้ทางโครงการชลประทานนครราชสีมาและผู้เกี่ยวข้อง เสนอแผนการซ่อมแซมทำนบดินอย่างรอบคอบ และให้เก็บกักน้ำให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ รวมทั้งตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อนำไปสู่การศึกษาและการสำรวจออกแบบที่สามารถรองรับปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฤดูน้ำหลากปีต่อๆไป พร้อมกันนี้ได้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอให้ร่วมมือร่วมใจกันในการขับเคลื่อนงาน เพื่อประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเน้นย้ำให้วางแผนการดำเนินงานให้รวดเร็ว ชัดเจน รวมไปถึงการวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญให้ติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ หรือหากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานชลประทานที่ 8 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง หรือสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา”

และในช่วงบ่าย อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบประตูระบายน้ำบ้านกันผม ตำบลพระพุทธ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมสั่งการให้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำประเภทไฮโดรโฟร์เพิ่มเติม เพื่อเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังบริเวณตัวเมืองนครราชสีมาให้เร็วที่สุด คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3 วัน ถ้าไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม