หอการค้าไทย-จีน คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 2.5% ท่องเที่ยวฟื้นต่างชาติมาเที่ยวถึง 8 ล้านคน

  • ค่าใช้จ่ายต่อรายนักท่องเที่ยวเพิ่ม 100,000 บาทต่อคน
  • ชี้ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมาประเทศไทยได้ไม่ต้องรับกักตัว
  • ธุรกิจออนไลน์ –ธุรกิจพืชผลการเกษตร มาแรง!

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ หอการค้าไทย-จีน และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นโดยการสำรวจความเห็นในรูปแบบออนไลน์ไปยังคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน เครือข่ายสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน และสมาคมธุรกิจต่างๆ กว่า 60 สมาคม ตลอดจนกลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ และชาวจีนโพ้นทะเล พบว่า กว่า 60.4% มีความมั่นใจต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนจีนในไตรมาสที่ 2 /2564 ที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ของไทยจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 2.5% แม้ประสบปัญหาจากการระบาดโควิด-19

“คาดว่าการท่องเที่ยวไทยจะจะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศกว่า 8 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจำนวน 2 ล้านคน  อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากขึ้นประมาณคนละ 100,000 บาท เนื่องจากต้องมีการกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิดจำนวน 14 วัน ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายต่อการเที่ยวสูงตามไปด้วย”

ทั้งนี้ผลสำรวจกว่า 54.3% มองว่าการส่งออกจากไทยไปจีนจะเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และ 51.3% คาดว่าการนำเข้าของไทยจากจีนจะเริ่มฟื้นตัวเช่นกัน ขณะที่การลงทุนในไทยจากผลสำรวจ กว่า 81% มองว่าการลงทุนของนักลงทุนจีนมีทิศทางเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว การมีวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลจีนได้เริ่มมีการฉีดให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

​สำหรับธุรกิจรายสาขาที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แก่ ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจพืชผลการเกษตร ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจเกษตรแปรรูป ส่วนสิ่งที่ยังกังวลต่อเศรษฐกิจไทย มี 5 ด้านประกอบด้วย การระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคระบาดใหม่โควิด-19 ที่ต่อเนื่อง ไปจนถึงปี 2565 ปัญหาที่เกิดจากเสถียรภาพทางการเมืองโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำต่อเนื่อง หนี้ภาครัฐและหนี้ภาคครัวเรือน และประสิทธิภาพของวัคซีน

​นอกจากนี้กว่า 82.4% เห็นด้วยว่าการฉีดวัคซีนจะมีส่วนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย และ52.8% เห็นด้วยว่าหากต่างชาติได้รับการฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้โดยไม่ต้องรับการกักตัว ส่วนการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่าจะนำไปสู่การปรับนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ผู้ให้ข้อมูล 47.9%ประเมินว่าไม่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ขณะที่ 37.2% คิดว่าจะส่งผลทางบวกต่อเศรษฐกิจไทย

​อย่างไรก็ตามผลสำรวจความเชื่อมั่น 85.09% เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจำเป็นต้องได้ปรับตัว เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว และต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อนในประเทศไทย โดยขอให้ภาครัฐบาลเร่งรัดการประกาศนโยบายออกมาให้ชัดเจนเพื่อผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะได้มีเวลาเตรียมตัวและนักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าวจะได้มีเวลาวางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้า

​“ผลการสำรวจดัชนีเชื่อมั่นในไตรมาส 1และไตรมาส 2 เห็นแนวโน้มการขยายตัวทางการค้าไทยและจีนอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนโดยเดือนม.ค.2564 การค้าไทย-จีนมีมูลค่า 7,579 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 6.11% โดยไทยส่งออกไปจีนมีมูลค่า 2,314 ล้านเหรียญสหรัฐ”