ส.อ.ท. เปิดตัว 10 อุตสาหกรรมดาวรุ่งครึ่งปีหลังของปีนี้

.พบว่ายังเติบโตได้ต่อ 21% มันใจทั้งปีเติบโต 20%

.หัวจักรขับเคลื่อนการส่งออกของไทย

.แต่ยังต้องลุ้นสารพัดปัจจัยเสี่ยง

  • นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้คาดการณ์การเติบโตของ 10 อุตสาหกรรมหลักของประเทศในครึ่งปีหลังของปี นี้ ได้แก่ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์, อาหาร, เครื่องมือแพทย์และสุขภาพ (รวมถุงมือยาง), ยาและสมุนไพร, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องปรับอากาศและทำความเย็น, เฟอร์นิเจอร์, หัตถกรรมสร้างสรรค์ และเครื่องสำอาง ว่าอาจจะสามารถส่งออกเติบโตเฉลี่ย 21%ส่งผลให้ตลอดทั้งปีนี้ จะเติบโตได้ 20% เพราะทั้ง 10อุตสาหกรรมดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศไทย

“ ที่ผ่านมาคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขส่งออกปี นี้ว่าจะเติบ โตเป็น 5-7% หากดูจากทิศทาง 10 อุตสาหกรรมดังกล่าวก็พบว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ไว้ แต่หากพบว่า10อุตสาหกรรม มีการเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องทุกเดือนใน6เดือนหลังของปีนี้ กกร.ก็อาจปรับตัวเลขใหม่ได้เช่นกัน “

ทั้งนี้ยังมีปัจจัย ที่ต้องติดตามคือ 1.การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ทำให้ค่าระวางเรือสูงขึ้นถึง 5 เท่า 2.การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์(ชิป)ที่อาจกระทบการผลิตของอุตฯไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ หรือไม่ และ 3.การระบาดโควิด-19 ระลอก3ที่ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มกลับมาล็อกดาวน์และควบคุมเข้มงวด ล้วนเป็นความเสี่ยงของ 10อุตสาหกรรมดังกล่าวในการส่งออก

ขณะเดียวกันเมี่อแยก10 อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีการส่งออกขยายตัวใน6เดิอนสุดท้ายของปีนี้ออกเป็น 4 หมวดได้แก่ 1. อุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวตามตลาดโลก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอาหาร ที่จะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยอุตสหกรรม ยานยนต์ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ได้ ปรับแผนใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกมากขึ้น ขณะที่อาหารปีนี้จะเติบโตได้ 5-7% หรือมีมูลค่าส่งออก 1 ล้านล้านบาท ฯลฯ

  1. 2.อุตสาหกรรมที่โดดเด่นต่อเนื่อง จากเทรนด์สุขภาพ ได้แก่ อุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ (รวมถุงมือยาง) อุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมสมุนไพร และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยกลุ่มนี้ได้รับแรงหนุนจากการแพร่ระบาดของ โควิด- 19 ปัญหามลพิษต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น

3. อุตสาหกรรมที่เติบโตในช่วงที่ประชาชนทำงานอยู่บ้าน( Work from Home )ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและทำความเย็น และอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งการ Work from Home ทำให้ผู้คนต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ เตาอบไมโครเวฟ โทรศัพท์และอุปกรณ์ เป็นต้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ

4. อุตสาหกรรมที่มีทิศทางเติบโตตามโควิด -19 คือกลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ อุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นก็คาดว่ายอดจำหน่ายจะทยอยเพิ่มขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมสินค้าสำหรับ ครัวเรือน และธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรม ร้านอาหาร จะเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยในสินค้ากลุ่มสร้างสรรค์ และอุปกรณ์เพื่อการตกแต่งอาคารสถานที่ต่างๆ เป็นต้น