สิงคโปร์จ่อชวนไทย-เวียดนามทำข้อตกลงไม่ห้ามส่งออกข้าว

  • เหตุหวั่นไม่มีข้าวกินช่วงโควิด-19ระบาดหนัก
  • ผู้ส่งออกยันไทยไม่ขาดแคลนข้าวแน่นอน
  • เหตุตลาดข้าวโลกซบทำส่งออกหดรัฐไม่ต้องห้ามส่งออก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ หลายประเทศ ที่เป็นผู้นำเข้าสินค้าจำนวนมาก และมีการผลิตในประเทศน้อย อย่าง สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ มีความพยายามที่จะชักจูงให้ประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าสำคัญๆ เช่น ไทย เวียดนาม อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ทำข้อตกลงที่จะไม่ห้ามการส่งออกข้าวในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อไร เพราะหากรัฐบาลของประเทศผู้ส่งออกข้าวหยุดการส่งออก หรือจำกัดปริมาณการส่งออก เพื่อเก็บไว้บริโภคในประเทศให้เพียงพอในช่วงการระบาดแล้ว อาจทำให้สิงคโปร์ ขาดแคลนข้าวได้

อย่างไรก็ตาม  สัปดาห์ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) และได้ตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์สินค้า (วอร์รูม) รวม 7 กลุ่ม เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิต การค้า การส่งออก ก่อนที่จะกำหนดมาตรการดำเนินการ เช่น สินค้าบางรายการอาจต้องมีปริมาณกันสำรองในประเทศ เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอบริโภคในช่วงของการระบาด ซึ่งข้าว เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการตั้งวอร์รูมด้วย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญสมาคม และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มาหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ข้าวแล้ว ซึ่งพบว่า ข้าวไทยไม่ขาดแคลนแน่นอน เพราะขณะนี้ สต๊อกข้าวของภาคเอกชนรวมกันไม่ต่ำกว่า 4 ล้านตันข้วสาร เพียงพอสำหรับการบริโภคได้อีก 7-8 เดือน ขณะเดียวกัน ข้าวนาปรังปี 63 รอบแรก เพิ่งเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 20% ของผลผลิต 5 ล้านตันข้าวเปลือก และยังมีข้าวนาปรังรอบ 2 ที่จะเก็บเกี่ยวราวเดือนส.ค.นี้อีก 3 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นข้าวสารรวมกันราว 5 ล้านตัน

นอกจากนี้ ขณะนี้ ตลาดส่งออกข้าวยังซบเซา โดยในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.นี้ ไทยเพิ่งส่งออกได้ 900,000 ตันเท่านั้น จากปีที่ผ่านๆ มา เคยส่งออกได้เป็นล้านตัน เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยการส่งออกเพิ่งกระเตื้องขึ้นในเดือนมี.ค.63 จากคำสั่งซื้อข้าวหอมมะลิของสิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐฯ ประมาณ 600,000-700,000 ตัน แต่ประเทศที่เคยนำเข้าข้าวขาวจำนวนมาก อย่างฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ยังไม่นำเข้าจากไทย แต่นำเข้าจากอินเดีย และเวียดนามแทน เพราะราคาถูกกว่ามาก อย่างข้าวขาว 5% ของไทยตันละ 480 เหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม ตันละ 430 เหรียญฯ และอินเดีย ตันละ 370 เหรียญฯเท่านั้น

ประกอบกับ ประเทศส่งออกสำคัญอย่างอินเดีย มีผลผลิตข้าวมากถึง 117 ล้านตัน ทำให้ผู้ซื้อหันไปซื้อจากอินเดียมากกว่าไทย เพราะราคาที่ถูกกว่า ขณะที่จีนยังมีสต๊อกมากถึง 120 ล้านตัน ไม่ต้องเร่งนำเข้า จึงทำให้ตลาดการค้าข้าวซบเซา

“ไม่ต้องห่วงว่าจะแห่ส่งออกจนทำให้ข้าวไม่เพียงพอบริโภคในประเทศ เพราะการค้าข้าวโลกยังซบเซา และไทยก็ยังมีผลผลิตอีกมาก แม้มีภัยแล้งแต่ทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกทั้งนาปี และนาปรังหายไปประมาณ 2 ล้านตันเท่านั้น ผลผลิตทยอยออกมาเรื่อยๆ และแม้เวียดนามได้ประกาศห้ามส่งออกชั่วคราว คิดว่าน่าจะระยะสั้น แต่ถึงแม้ถ้าเวียดนามห้ามการส่งออกจริงๆ ก็ไม่มีปัญหา ยังมีข้าวของอินเดีย ที่ผู้ซื้อยังวิ่งไปซื้อได้ เพราะราคาถูกกว่าไทย ทำให้คาดว่า การส่งออกของไทยน่าจะเฉลี่ยได้เดือนละ 500,000-700,000 ตันเท่านั้น ถ้าขึ้นไม่ถึงเดือนละ 800,000-1 ล้านตัน ก็ไม่มีปัญหา รัฐบาลไม่ต้องมีมาตรการเข้มข้น เช่น จำกัดการส่งออก หรือห้ามการส่งออก และขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นกักตุนด้วย”