สำรวจ “หมอชิต2″ ตามรอย “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์” สส.ก้าวไกล

สำรวจ “หมอชิต2″ ตามรอย “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์” สส.ก้าวไกล ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และรอลุ้นในช่วงวันเดินทางกลับของประชาชนในวันที่ 1 ม.ค.67

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวThejournalistclub ได้ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสายกรุงเทพหมอชิต (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ตามรอย “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์” สส.ก้าวไกล หรือแบงก์ศุภณัฐ เพื่อตรวจสอบการให้บริการ “หมอชิต 2” เบื้องต้นพบว่า ปัญหาต่างๆ หลายจุด เป็นไปตามคำร้องของนายศุภณัฐ แต่มีหลายปัจจัยที่มาเกี่ยวข้อง เริ่มจาก

1.บันไดเลื่อนเสีย ไม่สามารถใช้งานได้  สอบถามเจ้าหน้าที่บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส.  ได้รับคำตอบว่า บันไดเลื่อนเสียมานานหลายปีแล้ว ไม่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุง และไม่มีอะไหล่แล้ว  ผู้มีสัมภาระ ต้องใช้บริการทางลาด  

2.เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ ตั้งเรียงราย หลายตัวมาก บางตัวใช้งานได้ บางตัวใช้งานไม่ได้ สอบถามเจ้าหน้าที่  บขส. ได้รับคำตอบว่า มีบางตัวใช้ได้  แต่ไม่คนใช้บริการ เพราะส่วนใหญ่ต้องการสอบถามตั๋วหน้าเคาเตอร์ขายตั๋ว  ส่วนบางตัวใช้ไม่ได้ คำตอบ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งแก้ปัญหา 

3.ระบบขนส่งเดินทางไปยังหมอชิต 2 ไม่เชื่อมต่อ  ป้ายบอกทางไม่ชัดเจน  (ขสมก.ต่อเข้าเมือง  เลี้ยวซ้าย (แต่ปิดทาง)​  -สถานีรถไฟพหลโยธิน ตรงไป (ไปแล้วหาไม่เจอทางออก)​ สถานีขาเข้า ตรงไป 

กรณีเดินทางด้วยรถเมล์ สามารถเดินทางเข้าไปหลายสายมาก อาทิ สาย 52 จากปากเกร็ด-หมอชิต  2 สาย 510 รังสิต -หมอชิต 2 จอดข้างหน้าหมอชิต 2 ถือว่า อันนี้สะดวกสบาย  ลงรถเมล์ หากมีสัมภาระ สามารถลากกระเป๋า เข้าไปสถานีได้เลย โดยรถเมล์ทุกคัน ที่จะเข้าสถานีหมอชิต จะไปวนสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีกลางบางซื่อก่อนทุกคัน 

แต่หากจะเดินทางกลับจะยุ่งยากเล็กน้อยๆ เพราะต้องเดินไกล หากมีกระเป๋าสัมภาระถือว่ายุ่งยาก ลำบาก เพราะทางเดินทางไปจุดจอดรถเมล์ ถือว่าลำบาก ฟุตบาทไม่เรียบ  ลากกระเป๋าเดินทางจะทุลักทุเลมาก ซึ่ง ณ จุดนี้ จะมีรถเมล์หลายสายที่วนมาจอด แต่ป้ายบอกทางไม่ชัดเจน ตามที่สส.ศุภณัฐ​ แจ้งไว้ หากเป็นเวลาค่ำคืน จะมืดมาก และเหม็นฉี่มากด้วย 

หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าBTS สามารถลงสถานีจตุจักร ต่อรถแท็กซี่ หรือ วินมอเตอร์ไซต์ ได้ หากไม่มีสัมภาระหลายชิ้น ใช้บริการ วินมอเตอร์ไซต์ จะรออยู่ทางลงบันไดเลื่อน BTS ฝั่งสวนจตุจักร  ราคาวิน 60 บาท ตามป้ายที่เขียนบอกไว้  สามารถใช้บริการได้ แต่หากมีสัมภาระหลายชิ้น และชิ้นใหญ่ ต้องใช้บริการรถแท็กซี่ได้ กดตามมิเตอร์ หากไม่กดมิเตอร์ ไม่ต้องใช้บริการ หากรีบเร่ง ก็อาจต้องยอมจ่าย  เพราะช่วงค่ำๆ รถจะติดทางเข้าสถานีหมอชิต 2 

แต่หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าBTS แล้วมาต่อรถไฟใต้ดิน MRT ไปขึ้นที่สถานีกลางบางซื่อ แล้วหาทางเชื่อมออกไปขึ้นรถเมล์ ที่วนมารับ เพื่อเข้าสถานีหมอชิต 2 ได้   ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เพราะต้องเชื่อมต่อ 2  จุด หากมีสัมภาระ อาจไม่สะดวกสบาย เพราะต้องขึ้น-ลง บันได แม้จะมีบันไดเลื่อนก็ตาม  

ส่วนกรณีเดินทางกลับ  หากใช้บริการTAXI จะไม่ลำบากมาก เพราะรอบริการจำนวนมาก  แต่หากต้องการใช้บริการรถเมล์ ต้องเดินทางไปตามป้าย ที่บอกทางไม่ชัดเจนและเดินทางไกลพอสมควร เมื่อไปถึง สามารถเลือกใช้บริการรถเมล์ และรถตู้ ตามที่จะเดินทางไปจุดหมาย แต่หากจะเดินทางไปสถานีกลางบางซื่อ เพื่อไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟอื่นๆ  ต้องนั่งวินมอเตอร์ไซต์ ราคา 60 บาท หรือใช้บริการ TAXI ที่ไม่ค่อยอยากไป เพราะราคาถูก 

แต่หากจะเดินไปสถานีกลางบางซื่อระยะทางไกล พอสมควร แต่หากไม่มีสัมภาระ สามารถเดินไปขึ้นสถานีจตุจักร ข้างหลังหมอชิต 2 ได้ ระยะทางกว่า  1 กิโลเมตร  เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตรงติดต่อสอบถาม   เหตุใดไม่เชื่อมหมอชิต 2 กับสถานีรถไฟสายสีแดง คำตอบ คือ บขส. ขอเชื่อมไปนานแล้ว แต่ไม่ได้รับการยินยอมแต่อย่างใด  

4.ชานชาลาไม่มีแอร์ ไม่มีเก้าอี้ อันนี้เข้าใจได้ เพราะจำนวนคนมหาศาล  เก้าอี้ไม่พอแน่นอน 1000%  แอร์ก็ไม่พอแน่นอนอีกเช่นกัน แต่ที่น่าสังเกต คือ ร้านค้าๆต่างๆ ในหมอชิต 2 จะขยายร้าน นำสินค้ามาวางหน้าร้าน กีดขวางทางเดินมากๆๆ  

5.ความสะอาดของห้องน้ำ  ต้องยอมรับ จำนวนประชากรล้นทะลัก ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทัน แต่ละคนต่างพ่อต่างแม่ ต่างที่มา รักษาความสะอาดไม่เท่ากัน  เมื่อเป็นห้องน้ำสาธารณะ ต้องยอมรับการใช้บริการ 

6.ห้องให้นมบุตรไม่เปิด  แต่ติดป้ายแจ้งไว้ชัดเจนว่า ผู้โดยสารที่ต้องการใช้ห้องให้นมบุตร ติดต่อที่พนักงานประจำเครื่องเอ็กซเรย์ ส่วนห้องปฐมพยาบาล เปิดให้บริการตามปกติ มีเจ้าหน้าที่ประจำ  มีนั่งสำหรับพระภิกษุสงฆ์และสามเณร 

7.จุดตั้งตู้ดับเพลิง  ณ จุดตามภาพ  เป็นทางเดินไปขึ้นรถเมล์ ขสมก. เป็นทางเชื่อมที่เหม็นฉี่มาก   ซึ่งเป็นตู้ดับเพลิงเก่า อาจไม่ใช้งานแล้ว หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว 

ประเด็นขากลับ ต้องไปรอลุ้นวันเดินทางกลับจากต่างจังหวัด วันที่ 1 ม.ค.67 ว่าจะวุ่นวาย..ว้าวุ่นแค่ไหน…. และรอไปตรวจสอบกันช่วงสงกรานต์ปี 2567 อีกครั้ง!!!