“สันติ” ให้ยสท.ศึกษาผลกระทบการเลิกผลิตบุหรี่แต่งกลิ่น หวั่นกระทบรายได้รัฐ

  • เหตุภาษีบุหรี่ เป็น 1 ใน 5 รายได้หลักของประเทศ
  • บุหรี่เถื่อน-บุหรี่ไฟฟ้าทะลักแน่
  • ต้องศึกษาข้อมูลรอบด้าน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)​ ไปศึกษารายละเอียดกรณีกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ลดและเลิกใช้สารปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นบุหรี่นั้น จะมีผลกระทบต่อยสท.และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่มากน้อยเพียงใด และให้นำเสนอความเห็นมายังกระทรวงการคลังโดยเร็ว เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติในขั้นตอนต่อไป

“ขณะนี้ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ว่า การลดและเลิกแต่งกลิ่นบุหรี่ จะมีผลกระทบอย่างไร ต้องรอให้ยสท. เสนอรายละเอียดมาให้พิจารณาก่อน จึงจะะให้ความเห็นได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการห้ามบุหรี่มีสารปรุงแต่งกลิ่นนั้น โดยเฉพาะกลิ่นเมนทอล เนื่องจากเป็นบุหรี่ที่ผู้สูบบุหรี่คนไทยนิยม ทำให้กระทรวงการคลัง มีความกังวลว่าจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ เนื่องจากรายได้จากภาษีบุหรี เป็น 1 ใน 5 รายได้ของกรมสรรพสามิต โดยปี 2564 รายได้จาภาษีบุหรี่อยู่ที่ 64,200 ล้านบาท ส่วนปี2565 ผลการจัดเก็บรายได้ 11 เดือน (ต.ค.64-ก.ย.65) อยู่ที่ 54,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาล มีนโยบายที่จะให้เลิกผลิตและนำเข้าบุหรีที่แต่งกลิ่นหรือมีสารปรุงแต่งรสชาติ รัฐบาลก็ต้องเร่งปฎิรูปและปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ รวมถึงกำหนดอัตราพิกัดภาษีรายการใหม่ๆ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป ขณะเดียวกันรัฐบาล ต้องเข้มงวดกวดขันการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากย่ิงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่มาจำหน่ายในประเทศจำนวนมาก ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้า ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้นำเข้า แต่ก็มีการนำมาสูบกันอย่างแพร่หลาย ส่วนประเด็นเรื่องสุขภาพ ก็ต้องศึกษาด้วยความรอบคอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนเสนอครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป