- คงเป็นที่รักและศรัทธาของทุกคนในพปชร.
- เหน็บเอาเวลาจ้องโจมตีพรรคอื่น
- ไปเร่งทำคะแนนนิยมให้พรรคตนเองบ้าง
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต.2 จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า การที่นายอนุสรณ์ ออกมาพาดพิงถึงพรรคพลังประชารัฐไปในทางเสียหาย โดยเฉพาะกรณีการเสนอรายชื่อรัฐมนตรี ตนเห็นว่า นายอนุสรณ์ น่าจะสำคัญตัวเองผิดไป เหมือนว่าตัวนายอนุสรณ์นั้นเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐคนหนึ่ง ซึ่งดูจะเป็นการก้าวล่วงการทำงานของพรรคพลังประชารัฐจนเกินไป
ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ขณะนี้ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล กำลังทำหน้าที่ของตัวเอง ในการรับฟังปัญหาจากประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อนำมากำหนดทิศทางนโยบายและนำเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนทุกคน
ขณะที่การกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่ากำลังเผชิญวิกฤตศรัทธานั้น ตนยืนยันว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงเป็นที่รักใคร่ และเคารพศรัทธาของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนขณะที่กรณีที่ ศบค.มีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนมาเป็นอันดับแรก ซึ่งไม่ได้จำกัดสิทธิของประชาชนแต่อย่างใด
ด้านการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ที่นายอนุสรรณ์ กล่าวหานั้น ทราบว่าขณะนี้ มติที่ประชุม กมธ.ได้แต่งตั้งให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงการคลัง ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กมธ.แล้วพร้อมกับการที่แต่งตั้งให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นกรรมาธิการฯ แทน นายอุตตม สาวนายน ที่ลาออกไป โดยคาดว่าจะสามารถดำใจเนินการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯ ดังกล่าวได้ตามปกติและสามารถเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปได้ตามกำหนดที่วางไว้
“ตนไม่ทราบจุดประสงค์ของ นายอนุสรณ์ ที่ออกมาให้ข่าวเช่นนั้น โดยในทางตรงกันข้าม ตนอยากให้นายอนุสรณ์ ในฐานะที่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยเอง ได้ดูแลการทำงานของพรรคตนเอง ซึ่งทราบมาว่าก็มีปัญหาภายในพรรคอยู่ไม่น้อย ขณะที่คะแนนความนิยมก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก อย่ามัวเสียเวลามาดิสเครดิตใครต่อใครเลย ควรตั้งใจทำงานดูแลฐานเสียงของพรรคตนเองให้ดีกว่านี้ และสามารถเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชนได้ เพราะรัฐบาลเองพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของแต่ละพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมหรือพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว” นายสัณหพจน์ กล่าว