สรส.รวมพลังสนับสนุน”ศักดิ์สยาม”แก้ค่าโง่ทางด่วน-โฮปเวลล์มั่นใจชนะคดีได้

  • สรส.รวมตัวตบเท้ายื่นแถลงการณ์ต่อ”ศักดิ์สยาม”
  • เร่งแก้ปัญหาค่าโง่ทางด่วน-โฮปเวลล์
  • เชื่อมีทางชนะคดีพร้อมขอเปลี่ยนบอร์ดการทางยกชุด

ที่กระทรวงคมนาคม สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย(สรส.)โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสรส. และประธานสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)  นำสมาชิกสหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.และสมาชิกสหภาพ รฟท. กว่า 50 คน มายื่นแถลงการณ์ต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยมีนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม และนายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้รับเรื่อง

นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม

โดยนายสาวิทย์ กล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวขอให้รัฐบาลและคมนาคมดำเนินการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐวิสาหกิจกับบริษัทเอกชนที่รับสัมปทาน ได้แก่ 1.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม และ บริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือจำกัด (เอ็นอีซี) และ2.การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ในอนาคตควรพิจารณาทบทวนนโยบายในโครงการต่างๆของราชการ และหน่วยงานของรัฐที่ให้เอกชนร่วมลงทุนหรือให้สัมปทานว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยเทียบเคียงผลประโยชน์และปัญหาที่จะตามมากับการที่รัฐดำเนินเองและให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้การดำเนินการต่อสู้คดีของทั้ง 2 หน่วยงานจนถึงที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ

อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีโฮปเวลล์นั้นมีประเด็นสำคัญในเรื่องมูลค่าความเสียหาย ทั้งจากตัวโครงการและการพัฒนาพื้นที่ของรฟท.ที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากติดสัญญากับโฮปเวลล์ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถต่อสู้คดีได้ พร้อมทั้งขอให้แต่งตั้งผู้ว่าการรฟท.ตัวจริงด้วย ส่วนคดีค่าโง่ทางด่วนนั้นมี 2 ประเด็นสำคัญ คือ ขอให้สั่งการให้กทพ.ไปฟังคำพิพากษาของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงงานก่อสร้างโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เนื่องจากทราบว่า รักษาการผู้ว่ากทพ.ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป ซึ่งเป็นการเลื่อนครั้งที่ 2 แล้ว

ทั้งนี้เพื่อจะได้เกิดความชัดเจน หากคำพิพากษาชี้ว่ากทพ.ชนะคดีจะได้รู้ว่าสมมุติฐานที่บอกว่ากทพ.จะแพ้บีอีเอ็มในทุกคดีนั้นผิด และจะได้นำไปสู่การพิจารณาแนวทางการให้สัมปทานใหม่ 

แต่หากแพ้คดีก็จะเป็นการสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาที่ดำเนินการอยู่ได้ ส่วนอีกประเด็นคือต้องการให้ทบทวนเรื่องตำแหน่งผู้ว่าการกทพ.ที่ขณะนี้แต่งตั้งให้สุทธิศักดิ์ วรรณวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการแทนนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ที่ถูกคำสั่งม.44 ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสุทธิศักดิ์ กำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.นี้

ดังนั้นขอให้มีความชัดเจนว่าจะมีคำสั่งให้นายสุชาติ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ให้ครบวาระในเดือนพ.ค.63หรือไม่ หรือจะให้มีการวรรหาผู้ว่าการกทพ.คนใหม่ เพราะเวลานี้องค์การต้องการผู้นำในการตัดสินเรื่องสำคัญ นอกจากนั้นทางสหภาพ กทพ.ยังได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม เรื่องขอเปลี่ยนแปลงประธานและคณะกรรมการ(บอร์ด)กทพ. และผู้ทำการแทนผู้ว่าการกทพ.ด้วย