- ครม.ส่งหนังสือถึงเลขาธิการวุฒิสภา
- เร่ิมกระบวนการสรรหาบอร์ดกสทช.
- ไม่ตัดสิทธิ์ เปิดทางสมัครใหม่ หลังแก้ไขพ.ร.บ.กสทช.แล้วเสร็จ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง เลขาธิการวุฒิสภา (ส.ว.)เพื่อให้เริ่มขั้นการสรรหาและคัดเลือกบอร์ดบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือกรรมการกสทช.ชุดชั่วคราว โดยให้ดำรงตำแหน่งกสทช.ไปจนกว่าการแก้ไขพ.ร.บ. พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2560 (พรบ.กสทช.) จะแล้วเสร็จ และเมื่อแล้วเสร็จ กรรมการกสทช.ชุดชั่วคราว มีสิทธิ์สมัครกรรมการกสทช.ตามพ.ร.บ.กสทช.ฉบับแก้ไขใหม่นี้ด้วย
ทั้งนี้การสรรหากสทช.ชุดชั่วคราวนี้ เพื่อมาขับเคลื่อนภารกิจ ทั้งการประมูล การจัดสรรคลื่นความถี่ และการพัฒนาการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้เกิดความต่อเนื่อง เนื่องจากในยุควิถีชีวิตใหม่ ต้องนำเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงจำเป็นต้องมีกรรมการกสทช.เต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตามพ.ร.บ.กสทช.ปี 2560 ระบุขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการสรรหาบอร์ดกสทช.ซึ่งประกอบไปด้วย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษาในศาลฎีกา ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการสรรหา ซึ่งคณะกรรมการสรรหาจะเป็นผู้กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกทั้งหมด
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นผู้สมัครบอร์ดกสทช. โดยบอร์ดกสทช.ชุดชั่วคราว ตามพรบ.นี้จะมีจํานวนทั้งหมด 7 คน ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการ โทรคมนาคม ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ด้านละหนึ่งคน
โดยผู้สมัครเป็นบอร์ดกสทช.จะต้องเข้าเกณฑ์ต่างๆข้อใดข้อหนึ่งดังนี้
-เป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ํากว่ารองหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป หรือรองหัวหน้าหน่วยงานอื่น ของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจ
-เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตํารวจที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือพันตํารวจเอก อัตราเงินเดือนพันเอกพิเศษ นาวาเอกพิเศษ นาวาอากาศเอกพิเศษ หรือพันตํารวจเอกพิเศษ ขึ้นไป
– ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป
– เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในตําแหน่งไม่ต่ํากว่ารองกรรมการ ผู้จัดการในบริษัทมหาชนจํากัดที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่าห้าร้อยล้านบาท
-มีประสบการณ์การทํางานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนอย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
-มีประสบการณ์ด้านการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการ โทรคมนาคมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
-มีอายุระหว่าง 40-70 ปี สัญชาติไทย ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้นหรือ หุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนได้รับการคัดเลือก
สำหรับขั้นตอนการเปิดรับสมัครนั้น จะเริ่มหลังจากที่คณะกรรมการสรรหากำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครได้แล้ว สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภาประกาศ จะต้องเปิดรับสมัครอย่างน้อย 30 วัน
คณะกรรมการสรรหาต้องคัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติด้านละ 2 คนรวมเป็น 14 คนภายในระยะเวลา 30 วัน หลังจากนั้นเลขาธิการวุฒิสภาพจะต้องจัดทำรายชื่อทั้ง 14 คนเสนอต่อประธานวุฒิสภาภายใน 30 วัน เพื่อให้วุฒิสภาคัดเลือกต่อไป และวุฒิสภาจะต้องเลือกโดยการลงคะแนนลับ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับบัญชีรายชื่อ และเมื่อได้แล้วให้ประธานวุฒิสภาจัดให้มีการคัดเลือกประธานกรรมการและนำรายชื่อบอร์ดกสทช.เสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 20 วันนับจากวันที่วุฒิสภาคัดเลือก เพื่อนายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
โดยสรุปการเปิดรับสมัคร 30 วัน การคัดเลือกภายใน 90 วัน คาดว่าจะได้รายชื่อบอร์ดชุดใหม่ในก่อนสิ้นปีนี้
ทั้งนี้บอร์ดกสทช.ชุดปัจจุบัน เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2554 ตามกฎหมายมีวาระ 6 ปี แต่เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561มีคำสั่งคสช. ที่ 7/2561 ให้ระงับกระบวนการสรรหา และให้บอร์ดกสทช.ดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าคสช.จะมีคำสั่งอย่างอื่น และวันที่ 13 มิ.ย.2562 มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 7/2562 เป็นครั้งที่ 2 ที่คสช.มีคำสั่งให้บอร์ดกสทช.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการแก้ไขพรบ.กสทช.เสร็จเรียบร้อย จนกระทั่งมีมติครม.วันที่ 16 มิ.ย. 2563 ให้กลับมาสรรหาบอร์ดกสทช.ชุดชั่วคราว ก่อนที่จะมีบอร์ดใหม่ตามพรบ.ที่กำลังแก้ไข โดยเปิดเงื่อนไขให้ผู้ที่ได้เป็นบอร์ดชุดชั่วคราวนี้ สามารถสมัครเป็นบอร์ดตามพรบ.กสทช.ใหม่ได้อีกด้วย
ส่วนรายชื่อบอร์ดกสทช.ปัจจุบันตามพรบ.ฉบับเก่า จากเดิมมี 11 คน เหลือปฏิบัติหน้าที่ 6 คน ประกอบไปด้วย พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร, พ.อ.นที ศุกลรัตน์ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ร.ศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ ผ.ช.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ที่ทำงานมาแล้วกว่า 8 ปี
#บอร์ดกสทช #นับหนึ่งเลือกบอร์ดกสทชใหม่ #กฏหมายกสทช #NBTC #สรรหากสทช #คุณสมบัติกสทช #ทีวีดิจิทัล #Thejournalistclub