- เว้นภาษีผับ-บาร์ เหลือ 0% ถึง 30 ก.ย.
- เลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ 40% จำนวน 1 ปี
- ลดภาษีน้ำที่มีส่วนผสมผักและผลไม้ เหลือ 3%
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวระหว่างมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบแพคเกจภาษีสรรพสามิตเพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจและประชาชน หลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยมติดังกล่าวยังเป็นความลับจนกว่าจะประกาศในราชกิจจานุเษกษา ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการกฤษฎีกา จะตรวจร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นประกาศในราชกิจจานุเษกษาทันที
ทั้งนี้แพคเกจดังกล่าวจะช่วยเหลือกลุ่มบุหรี่ ยาเส้น รถยนต์ น้ำผลไม้ และสถานบริการ โดยในส่วนสถานบริการนั้น จะจัดเก็บภาษีในอัตรา 0% จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่มีเงื่อนไขคือ จะต้องจ้างแรงงานไว้เท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขยายเวลาเขตปลอดอากร เพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าให้มากขึ้น จากเดิมมีกรอบเวลาไว้ 15-20 วัน โดยขณะนี้กรมสรรสามิตกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะขยายระยะเวลาออกเป็นเท่าใด
ผู้สื่อข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ครม.เห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต อาทิ ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น เ ริ่มตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปจนถึง 30 ก.ย. 2563
นอกจากนี้ ยังเลื่อนเวลาการปรับภาษีบุหรี่ และยาเส้นออกไปอีก 1 ปี จากเดิมมีแผนปรับภาษีบุหรี่ในมูลค่าอัตราเดียว 40% ของราคาขายปลีกแนะนำ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เลื่อนออกไปเป็น 1 ต.ค.2564 เนื่องจากหากมีปรับภาษีดังกล่าว จะทำให้บุหรี่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 60 บาทต่อซอง ราคาปรับขึ้นถึง 100 บาท เพราะต้องเสียภาษี 40% จากเดิมเก็บ 20% ส่วนบุหรี่ที่ราคาสูงกว่า 60 บาทต่อซอง มีการจัดเก็บ 40% อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ครม.ยังมีมติลดภาษีให้กับเครื่องดื่มนวัตกรรม ที่มีสัดส่วนผสมน้ำผักและผลไม้ตั้งต่ำกว่า 10% ของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำถั่วแดง น้ำข้าวโพด น้ำมะเขือเทศ เป็นต้น ให้เสียภาษีแค่ 3% รวมถึงปรับลดภาษีรถสามล้อไฟฟ้าลงเหลือ 2% ส่วนสินค้านำเข้าและส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินทั่วโลกครม.เห็นชอบขยายเวลาการชำระภาษีให้กับสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในพิกัดสรรพสามิต ที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าสนามบิน ให้สามารถยืดเวลาการชำระภาษีออกไปได้จากเดิมที่กำหนดไว้ 7-15 วัน