สนค.เผยผลดีสหรัฐฯ-จีนจบศึกการค้าเฟสแรก

  • ทั่วโลกคลายกังวลเทรดวอร์-บรรยากาศการค้าดีขึ้น
  • ดันเศรษฐกิจโลกกระเตื้อง-ส่งออกไทยขยับตาม
  • แนะรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในสหรัฐฯ-จีนต่อ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก (Phase-1 Deal) ได้แล้วว่า จะช่วยให้บรรยากาศทางการค้าดีขึ้น ช่วยคลายความกังวลว่าสงครามการค้าจะไม่ลุกลามไปถึงการขึ้นภาษีนำเข้าเต็มจำนวน ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนขยายตัวดีขึ้น และส่งผลต่อเนื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลก รวมทั้งมีผลดีต่อไทยที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น

สำหรับรายละเอียดข้อตกลงบางส่วน เช่น สหรัฐฯ เสนอยกเลิกขึ้นภาษี 160,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวิดีโอเกมส์ โทรทัศน์ วิทยุ จอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น จากเดิมจะขึ้นภาษีวันที่ 15 ธ.ค.62 นอกจากนี้ ยังเสนอลดภาษีสินค้า 120,000 ล้านเหรียญฯเหลืออัตรา 7.5% จากเดิม 15% จากที่บังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.62 แต่จะคงภาษี 25% สำหรับสินค้ามูลค่า 250,000 ล้านเหรียญฯ อีกทั้งยังพร้อมเดินหน้าเจรจาข้อตกลงระยะ 2 (Phase-2 Deal) ทันทีด้วย

ขณะที่จีน จะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านเหรียญฯ ในเวลา 2 ปี, ลดอุปสรรคทางการค้าในภาคการบริการ เช่น ภาคธนาคาร ประกันภัย และหลักทรัพย์, แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี และละเว้นการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพื่อการครอบครองเทคโนโลยีต่างชาติ รวมถึงละเว้นการดำเนินนโยบายค่าเงินที่สร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม

“ในข้อตกลงระยะแรก ไม่ระบุเงื่อนไขให้จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ไทยจึงควรเร่งใช้โอกาสส่งออกสินค้าทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ต่อไป โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยทดแทนสินค้าสหรัฐฯในจีนได้ดี เช่น อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง และสิ่งมีชีวิต ส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต”

ส่วนการลดภาษีนำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ อาจทำให้ไทยได้ประโยชน์ลดลง เพราะสินค้าจีนจะกลับเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งไทยควรกระชับมิตรผู้นำเข้า ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดให้มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ทดแทนสินค้าจีน เช่น สินค้าเกษตรกรรม อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบ เหล็กและอลูมิเนียม และของใช้ในบ้านและสำนักงาน