ศุลกากร ลงนามความตกลงโครงการผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอ กับศุลกากรนิวซีแลนด์

  • ส่งให้ผู้ส่งของออกระดับมาตรฐานเออีโอของไทย ได้รับการอำนวยความสะดวก
  • ในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร เมื่อส่งของออกไปนิวซีแลนด์
  • เผย ไทยนิวซีแลนด์ มีความเข้มแข็งด้วยมูลค่าทางการค้ารวมกว่า 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (รอบปีบัญชี มิ..65)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย Ms.Christine Stevenson ตำแหน่งComptroller and Chief Executive ของศุลกากรนิวซีแลนด์ ได้ลงนามความตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangement: MRA) สำหรับโครงการผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอ (Authorized Economic Operators: AEO) ระหว่างกรมศุลกากรและศุลกากรนิวซีแลนด์ ในการประชุม WCO Asia Pacific Regional Head of Customs Administration Conference ครั้งที่ 24  เมืองเพิร์ท เครือรัฐออสเตรเลีย 

ทั้งนี้ สำหรับผลจากการลงนามในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ส่งของออกระดับมาตรฐานเออีโอของประเทศไทยได้รับการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร เมื่อส่งของออกไปยังประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งความตกลงยอมรับร่วมกัน(Mutual Recognition Arrangement: MRA) ฉบับนี้  จัดเป็นความตกลงฯ ในระดับทวิภาคี ลำดับที่ 6 ที่ประเทศไทยได้ลงนามโดยสมบูรณ์ ร่วมกับหน่วยงานศุลกากรของประเทศต่าง  ต่อจาก เขตบริหารพิเศษฮ่องกงเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

รวมถึงในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศไทยและประเทศนิวซีแลนด์ มีความเข้มแข็งด้วยมูลค่าทางการค้ารวมทั้งสิ้น กว่า 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รอบปีบัญชี มิถุนายน 2565) ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานและการค้าระหว่างประเทศของทั้งสองประเทศ กรมศุลกากรและศุลกากรนิวซีแลนด์จึงได้เริ่มการเจรจาการจัดทำความตกลงดังกล่าว ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม ปี 2564 และได้ดำเนินการตรวจสถานประกอบการร่วมกัน (Joint Site Validation) ในปี 2565 

ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ดำเนินโครงการผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอตามกรอบมาตรฐานความปลอดภัย SAFE Framework of Standards to Secure and Facilitate Global Trade (SAFE Framework) ขององค์การศุลกากรโลก (World Customs Organization: WCO) มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายขยายการจัดทำ MRA กับหน่วยงานศุลกากรของประเทศอื่นๆ ต่อไป เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอของประเทศไทยต่อไป