“ศุภชัย เจียรวนนท์” แนะผู้นำรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้-ลงมือทำจริง

“ศุภชัย เจียรวนนท์” ซีอีโอเครือซีพี แนะผู้นำรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้-ลงมือทำจริง พร้อมปรับตัวรับความท้าทายในโลกที่เปลี่ยนไป

  • สร้างแรงบันดาลใจ 20 ตัวแทนเยาวชนไทย
  • พร้อมขึ้นเวทีประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชน
  • ระดับโลก One Young World 2023

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า  ทุกวันนี้โลกเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อน รวมไปถึงวิกฤตอาหาร (Food Crisis) ซึ่งเป็นประเด็นที่จำเป็นต้องเร่งหาทางออกร่วมกันและเป็นที่น่ายินดีที่ประเด็นดังกล่าวได้ถูกนำมาแลกเปลี่ยนในเวที One Young World 2023 ครั้งนี้ ในขณะเดียวกันมีความสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายและยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของเครือฯ ที่เราได้เน้นไปใน 3 ประเด็นที่มีความท้าทายสูงในขณะนี้ คือ 1.การมุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050  2.การมุ่งสู่การเป็นองค์กร Zero Waste ลดขยะและของเสียเป็นศูนย์ภายในปี 2030 โดยทั้งสองข้อนี้จะต้องให้ความสำคัญในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดคาร์บอนและกำจัดของเสีย และ3.ให้ความสำคัญเรื่อง Inclusive Capital ลดความเหลื่อมล้ำผ่านการปฏิรูปการศึกษา (Education Reform)  โดยมองว่า เด็กทุกคนควรจะต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้และเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม โดยระบบการศึกษาควรจะต้องจัดทำหลักสูตรเสริมทักษะพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลให้เข้มข้นมากขึ้นรวมไปถึงเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งปลูกฝังจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีควบคู่กัน  

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าผู้ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดในตอนนี้คือเยาวชน คนรุ่นใหม่ ระบบการศึกษาจะต้องมีการปรับการเรียนการสอนโดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางให้เขาได้เกิดการเรียนรู้จากการได้ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง (Action Base Learning) เกิดการคิด วิเคราะห์ และค้นคว้าวิจัยด้วยตนเอง ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงมีเป็นอีกประเด็นที่สำคัญในการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงท่ามการณ์โลกที่มีความท้าทายใหม่ๆมาตลอดเวลา ในขณะเดียวกันผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีมายเซตที่ดีควบคู่ไปกับต้องเป็นผู้ที่มีเมตตา เห็นอกเห็นใจผู้อื่น สิ่งนี้จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกได้ ทั้งนี้หวังว่าคนรุ่นใหม่ของเครือซีพีและบริษัทในเครือฯ จะนำองค์ความรู้และเป้าหมายการขับเคลื่อนความยั่งยืนของเครือฯไปแลกเปลี่ยนมุมคิดกับเยาวชนจากประเทศอื่นๆ ในการแก้วิกฤตโลกร่วมกัน

“การจะเป็นผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลงสิ่งสำคัญต้องมี Growth Mindset ควบคู่ไปกับมีจริยธรรม และต้องพร้อมที่จะยืดหยุ่นเปิดรับความคิดใหม่ๆ เรียนรู้และปรับตัวยอมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต้องกล้าคิด กล้าทำ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ถ้าเจออุปสรรค เจอความล้มเหลว ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น เพราะความล้มเหลวเป็นก้าวเล็กๆ ที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จได้”  

ด้านนายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโครประเทศไทย ได้ร่วมแสดงความยินดีกับเยาวชนทั้ง 20 คนที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแชร์ความเห็นบนเวทีโลก One Young World โดยมองว่าเป็นโอกาสอย่างยิ่งใหญ่ของคนรุ่นใหม่ที่จะพบทั้ง Private Sector และ Public Sector  พร้อมร่วมหารือถึงประเด็นความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ถือเป็นวาระสำคัญที่ตัวแทนเยาวชนไทยจะได้ร่วมแลกเปลี่ยนไอเดียและแสดงศักยภาพให้กับนานาชาติได้เห็น ในขณะเดียวกันอยากให้ตัวแทนทุกคน นำค่านิยมองค์กร 3 ประโยชน์ของเครือซีพี ไปปรับใช้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ทำต้องมีประโยชน์ให้กับประเทศ และต้องมีประโยชน์กับสังคม ประชาชนพลเมืองด้วย สุดท้ายถึงจะประโยชน์ต่อเป็นองค์กร  

ในขณะที่นางสาวกีรติกา ห่อเกียรติ คนรุ่นใหม่จากบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในตัวแทน One Young World กล่าวว่า การพัฒนาระบบการศึกษาให้เข้าถึงทุกคนได้อย่างเท่าเทียมเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เด็กๆ ทุกคนได้รับความรู้ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะนำไปแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกับเพื่อนๆ จากประเทศต่างๆ ในการประชุม One Young World หนึ่งในโครงการดีๆ ระดับโลกในการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ตลอดเวลา ให้มีโอกาสกล้าคิด กล้าลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ไม่ใช่แค่พัฒนาตัวเองอย่างเดียว แต่ต้องตระหนักและพัฒนาสังคมให้เกิดความยั่งยืนไปพร้อมๆ กันด้วย  

สำหรับเวที One Young World เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นการรวมตัวของเยาวชนจากนานาประเทศที่มีอายุ 18-30 ปี มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ในการหาแนวทางแก้ปัญหาวิกฤตต่างๆ ของโลก ซึ่งการประชุมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หมุนเวียนไปตามพื้นที่สำคัญ โดยในเวทีดังกล่าวในแต่ละปี จะมีการตั้งหัวข้อสำคัญเพื่อแสวงหาความร่วมมือและร่วมแก้ปัญหาวาระเร่งด่วนของโลก และในปีนี้มาพร้อมกับ  5 ประเด็นสำคัญคือ 1.สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Emergency) 2.วิกฤตอาหาร (Food Crisis) 3.การศึกษา (Education) 4.สันติภาพและความปรองดอง (Peace and Reconciliation) และ5.สุขภาพจิต (Mental Health) ซึ่งคาดว่าจะมีเยาวชนกว่า 190 ประเทศจาก 250 องค์กรทั่วโลกมาร่วมในงาน