“ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่พระราม 2 เคลียร์ถนน สร้างทางยกระดับด้วยตัวเองหวังระบายรถลงใต้ไม่มีปัญหา

“ศักดิ์สยาม” พอใจผลการจัดการจราจร -เริ่มงานก่อสร้าง โครงการทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 บนถนนพระราม2 พร้อมเตรียมเดินหน้าก่อสร้างส่วนต่อขยายเอกชัย-บ้านแพ้ว หวังรถเดินทางลงใต้ฉิว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 บนถนนพระราม 2 ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ของกรมทางหลวง และ โครงการทางพิเศษ สายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก (สัญญาที่2) ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ว่า จากการตรวจสอบการดำเนินการหลังการเข้าพื้นที่การก่อสร้างพบว่ามีการจัดการการจราจรเป็นที่น่าพอใจโดยในส่วนตัวให้คะแนน การจัดการจราจรมากกว่า 80% โดยพบว่าก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างซึ่งมีการใช้ผิวจราจร ครบทุกช่องจราจรไป-กลับ (14 ช่องจราจร) รถยนต์สามารถทำความเร็วได้เฉลี่ยอยู่ที่ 55.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อมีการเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง ช่องจราจรในการเดินทางแก่ประชาชน 12 ช่องจราจร พบว่าความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ลดลงเพียงเล็กน้อย อยู่ที่ 53.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเห็นได้ว่าใช้เวลา ในการเดินทางแทบจะไม่ต่างกัน

นอกจากนี้ยังได้สั่งให้กรมทางหลวง ดูเรื่องการวางแนวแบริเออร์​ ป้ายสัญญาณจราจรว่า บังสายตาผู้ขับขี่หรือไม่ โดยสั่งการให้นายช่างตรวจสอบทุกวันเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การนำวัสดุก่อสร้างเข้าในพื้นที่จะใช้เวลาในช่วง 21:00 น ถึง 04:00 น ทุกวัน เพื่อไม่ให้กระทบกับการเดินทางของประชาชน และให้เตรียมพร้อมดูแลงานก่อสร้างเมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝนด้วย

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV 12 จุดซึ่งสามารถ ดูการจราจรได้และมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งภาพเหล่านี้จะส่งสัญญาณไปยังกทพ.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ซึ่งในอนาคตมีแนวคิดว่าจะติดจะติดตั้งกล้อง จราจรให้สามารถ ดูได้ทั้งประเทศ เช่นเดียวกับในประเทศเกาหลีใต้ ที่ไม่ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ มาอำนวยการจราจรอยู่ริมถนน แต่จะใช้การมอนิเตอร์ควบคุม และใช้วิทยุสื่อสารแจ้งเหตุ และจัดการจราจรแต่ละจุด ขณะเดียวกันยังสั่งการให้สรุปรายงานในทุกๆเดือนรวมถึงการบริหารสัญญา โดยย้ำว่า เอกชนคู่สัญญา จะต้องดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในกรอบเวลาของสัญญา ไม่มีข้ออ้างสาเหตุที่ไม่สมควรมาเป็นข้ออ้างทำให้โครงการล่าช้า

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากนี้ หากก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้สภาพผิวการจราจรมีเพิ่มมากขึ้น และเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยบนถนนพระราม 2 จะมีช่องจราจรไปกลับ 14 ช่องจราจร และบนทางยกระดับ อีก 6 ช่องจราจร รวมแล้วจะมีผิวจราจร ถึง 20 ช่องจราจร ให้การจราจรสู่พื้นที่ภาคใต้ ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการส่วนต่อขยายที่จะทำในอนาคตจากทางยกระดับ บางขุนเทียน-เอกชัยนั้น ทางหลวงมีแผนที่จะก่อสร้างทางยกระดับจากเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 15 กม.วงเงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท นั้นจะมีแผนดำเนินการต่อเนื่องเลย โดยตามแผนจะใช้งบก่อสร้างในปี 2564 จากกองทุนมอเตอร์เวย์มาใช้ก่อสร้าง ซึ่งเมื่อเมื่อก่อสร้างจะทำให้การจราจรที่จะลงภาคใต้สะดวกมากขึ้น  

นอกจากนั้นยังได้ให้นโยบายทางหลวงตั้งงบประมาณในปี 2564 เพื่อไปศึกษาจุดคอขวดบริเวณวังมะนาว จ.เพชรบุรี เพื่อแก้ไขปัญหารถติดจากแบบเดิมเป็นสามแยก ให้แก้ไขเป็นสี่แยกเพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดในจุดดังกล่าว เนื่องจากจุดนี้ต่อไปอีก14 กม. ก็สามารถวิ่งตรงถึงจ. เพชรบุรีเลย

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 25 กม. วงเงิน 33,492 ล้านบาทโดยในช่วงบางขุนเทียน-เอกชัยกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท 

ส่วนช่วงต่อเอกชัย-บ้านแพ้ว อยู่ระหว่างการขออนุมัติที่จะใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์มาใช้ในการก่อสร้างวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กองทุนมอเตอร์เวย์มีเงินอยู่ประมาณ 14,000 ล้านบาท และในแต่ละปีจะมีเงินกองทุนเข้ามาปีละ 4-5,000 ล้านบาท ดังนั้นช่วงต่อขยายดังกล่าวจะไม่มีปัญหาในเรื่องวงเงินงบประมาณที่จะมาก่อสร้างและหากดำเนินการตามแผนจะทำให้การจราจรจากกรุงเทพมหานครไปยังภาคใต้จะสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น