ศบค.มท.แจ้งทุกจังหวัดทั่วประเทศเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนนักศึกษาอายุ 12 ปีขึ้นไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้แจ้งแนวทางการดำเนินงานเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางฯ ของกรมควบคุมโรค ได้แก่

1. ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประสานการจัดบริการให้วัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ในรูปแบบการให้บริการวัคซีนผ่านสถาบันการศึกษา โดยหากนักเรียน/นักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าวมีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีน Pfizer ได้พร้อมกับนักเรียนร่วมสถาบันการศึกษา และหากกรณีที่นักเรียน/นักศึกษาไม่สามารถเข้ารับวัคซีนผ่านสถานศึกษาได้ ให้พิจารณาจัดหาช่องทางการเข้าถึงวัคซีนตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

2. แจ้งแผนการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ให้แก่โรงพยาบาลจังหวัดและอำเภอ สำหรับการให้บริการช่วง 2 สัปดาห์แรก โดยจะแจ้งการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือนตุลาคม 2564 ในภายหลัง

3. ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประสานศึกษาธิการจังหวัด หรือหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษา เพื่อทราบจำนวนกลุ่มเป้าหมายการรับวัคซีน และแจ้งจำนวนนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีน รวมทั้งโรงพยาบาลที่จัดส่งวัคซีนไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อใช้ในการพิจารณาจัดส่งวัคซีนต่อไป

4. ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พิจารณาให้บริการวัคซีนโควิด-19 สำหรับบุคลากรทางการศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้ครบถ้วน โดยให้วัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 และวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบริหารจัดการวัคซีน Pfizer เพื่อใช้วัคซีนอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมายสูงสุด และขอให้แจ้งประมาณการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบต่อไป

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จะได้ประสานงานการดำเนินงานสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ศบค. เพื่อให้เกิดการปฏิบัติในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือไปประชาชนทุกท่านในการปฏิบัติตามมาตรการการรักษาสุขอนามัยพื้นฐานตามหลัก DMHTTA รวมถึงการป้องกันการติดเชื้อแบบ Universal Prevention ให้เป็นชีวิตวิถีใหม่ควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อร่วมกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19