- ต่ำสุดในรอบ7ปีหลังคนกลัวไวรัสโคโรนา-ศก.ทรุด
- ชี้กลุ่มเจนวายสายเปย์ซื้อของให้คนรักหนักสุด
- ส่วนวนมาฆบูชาเงินสะพัดแค่2.6พันล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวันวาเลนไทน์ในปี 63 ที่สำรวจจากตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 1,234 คน ระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ.63 ว่า คาดจะมีมูลค่าการใช้จ่าย 3,246.97 ล้านบาท ลดลง 1.23% จากปีก่อนที่มีมูลค่าการใช้จ่าย 3,701.22 ล้านบาท และเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี หากพิจารณารายละเอียดพบว่า มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่ 1,814 บาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2,318.96 บาท โดยกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุดคือ เจนวาย (เกิดปี 2524-2543) เฉลี่ย 2,205 บาทต่อคน ตามด้วยเจนเอ็กซ์ (เกิดปี 2508-2523) 1,766 บาท, เบเบี้บูมเมอร์ (เกิดปี 2489-2507) 1,532.6 บาท และเจนแซด (เกิดหลังปี 2543) 810.53 บาท
สาเหตุที่ใช้จ่ายลดลง เพราะราคาสินค้าสูงขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี รายได้ลดลง ประหยัด มีหนี้สินเพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา, ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เป็นต้น โดยกิจกรรมและการซื้อสินค้าที่มีการใช้จ่ายสูงในเทศกาล เช่น เที่ยวในประเทศ เฉลี่ย 5,597 บาทต่อคน, ไปบ้านแฟน 2,146 บาท, ซื้อของขวัญ 1,411 บาท, ทานข้าวนอกบ้าน 1,384 บาท, เดินห้าง 923 บาท, ซื้อดอกไม้ 591 บาท, ซื้อช็อกโกแลต 455 บาท, ดูหนัง 433 บาท เป็นต้น
“ จากการสำรวจการใช้จ่ายในด้านต่างๆ รวมถึงการก่อหนี้ ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่หรือเจเนเรชั่นวาย ถือเป็นกลุ่มที่เป็นหนี้ เพราะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และส่วนใหญ่จะเป็นการใช้จ่ายเงินในอนาคต เพราะมั่นใจว่าจะหาเงินมาชำระหนี้ได้ ซึ่งเทศกาลวาเลนไลท์ก็เช่นกัน มีการใช้จ่ายที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ“
นายธนวรรธน์ กล่าวต่อถึงลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในวันมาฆบูชาปี 63 ว่า คาดจะมีมูลค่า 2,601 ล้านบาท ลดลง 2.5% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 2,667.70 บาท เนื่องจากประชาชนมองว่าเศรษฐกิจยังแย่ลง, ขาดสภาพคล่องทางการเงิน, ภัยธรรมชาติและฝุ่นละออง, ราคาสินค้าแพงขึ้น, มีหนี้สินเพิ่มขึ้น, โวรัสโคโรนาระบาด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากดูเฉพาะการทำบุญหรือกิจกรรมทำบุญ พบว่าในปี 63 จะมีมูลค่า 1,962 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 9% ส่วนการซื้อสังฆทานส่วนใหญ่จะไปซื้อในวัดที่ทำบุญ รองลงมา ซื้อแถวหน้าวัด, ซื้อในตลาด, ซื้อร้านขายสังฆภัณฑ์แถวบ้าน, ซื้อในห้างค้าปลีก และซื้อผ่านออนไลน์ เป็นต้น
