“ลวรณ” เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตช่วงปรับขึ้นภาษีไม่ได้

บรรยากาศที่แม็คโครสาขาจรัลสนิทวงศ์ มารอซื้อเหล้า-เบียร์กันตั้งแต่ตีห้า
  • คาดเก็บรายได้เดือนละ 40,000 ล้านบาท
  • เร่งศึกษา “ภาษีความเค็ม-เบียร์ 0%”

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภารกิจสำคัญในการบริหารกรมจัดเก็บภาษีที่สร้างรายได้อันดับที่สองให้กับรัฐบาล คือ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี และนำดิจิทัลมาใช้ในการบริหารการจัดเก็บให้มากขึ้น ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยจากผลกระทบโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถปรับขึ้นอัตราภาษีได้

“ผมพยายามจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารการจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น และจะพยายามลดต้นทุนของการจัดเก็บภาษีให้ต่ำลง ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีของเจ้าหน้าที่ต่อคนให้สูงขึ้น”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กรมสรรพสามิตได้แถลงว่า ตัวเลขเป้ารายได้ตามเอกสารงบประมาณของปี 2564 อยู่ที่ 630,000 ล้านบาท แต่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)จึงได้ปรับเป้าประมาณการณ์รายได้ของกรมสรรพสามิตปีงบประมาณ 2564 มาอยู่ที่ 530,000 ล้านบาท หรือลดลง 100,000 ล้านบาท โดยคาดว่ากรมจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีถึงเดือนละ 40,000 ล้านบาท