ร่วมด้วยช่วยกัน หาทางออก “เหมืองทองอัครา”

  • “สุริยะ”หวังเจรจาเปิดพื้นที่เหมืองใหม่
  • แลก “คิงเกต”เจ้าของเหมืองอัคราถอนฟ้องรัฐบาลไทย
  • ย้ำต้องอยู่ภายใต้กฎหมายแร่ใหม่ ที่เข้มงวดสิ่งแวดล้อม – ดูแลสุขภาพชาวบ้านพื้นที่

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหาทางออกบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)  ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ฟ้องร้องรัฐบาลไทย หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามม.44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร จนทำให้ไทยเข้าสู่กระบวนการเบิกความต่อหน้าอนุญาโตตุลาการในวันที่18 พ.ย. ที่ฮ่องกงว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อยู่ระหว่างหาแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อยุติเรื่องดังกล่าว มองว่า หนึ่งในทางเลือก คือ การเจรจากับเอกชนอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่จะต้องดำเนินการไม่ให้เกิดการเสียเปรียบ หรือเอาเปรียบเอกชน เช่น การให้สัมปทานกับเอกชนเพิ่มเติม หรือการเปิดให้สำรวจแร่เพิ่มเติม แต่เอกชนจะต้องดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติแร่ ฉบับใหม่ พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่29 ส.ค. 60  ซึ่งมีขั้นตอนที่เข้มงวดในการดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน

“หากเอกชนสามารถทำตามเงื่อนไขได้ทั้งหมด ก็สามารถทำได้ แต่หากเอกชนไม่สามารถทำตามเงื่อนไขตามกฎหมายได้ ก็จำเป็นจะต้องยกเลิกไปเพราะรัฐบาลก็จะต้องดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนด้วย ดังนั้นในช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างการยื่นข้อเสนอและเงื่อนไข โดยขณะนี้ยังมีเวลาให้เจรจา หากสามารถตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย ก็สามารถเลื่อนการเบิกความต่อหน้าคณะอนุญาโตตุลาการได้”

นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัท คิงส์เกต เคยได้ยื่นหนังสือเพื่อจะขอเจรจากับทางรัฐบาลมาแล้ว หากทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมก็สามารถเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยรัฐบาลจึงต้องหาข้อเสนอและเงื่อนไข อย่างละเอียดและรอบคอบ เพราะปัญหานี้มีความละเอียดอ่อน คาดว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ในช่วงภายใน 10 วันนี้