“ศักดิ์สยาม”มีข่าวดีมาบอกหลังกรมขนส่งทางรางมีข้อมูลนักระบาดวิทยา พบสวมหน้ากากอนามัยอยู่รวมกันไม่เกิน 50 นาทีโอกาสติดเชื้อCOVID-19 เป็นศูนย์ เตรียมขยับคลายล็อคเพิ่มปริมาณผู้โดยสารบนขบวนรถมากขึ้น นัดถกหน่วยงานสารธารสุข และที่เกี่ยวข้อง 17 มิ.ย.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานวันครบรอบสถาปนากรมการขนส่งทางราง 2 ปี ว่า การให้บริการรถไฟฟ้าในขณะนี้ ทางกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางราง(ขร.)ได้พยายามผลักดันการใช้บริการ “ปกติในรูปแบบใหม่” หรือ New Normal ในช่วงที่มีการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสCOVID-19 อย่างไรก็ตามสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่ ยกเว้นผู้ติดเชื้อที่กลับมาจากต่างประเทศ ครบ 15 วันแล้ว รัฐบาลได้คลายล็อคเข้าสู่ระยะที่ 3อย่างไรก็ตามในขณะนี้แม้ว่ามาตรการต้องการการเฝ้าระวังเช่น Social Distancing ยังมีความจำเป็นที่ยังต้องใช้อยู่แต่ล่าสุดได้รับข่าวดีจากกรมการขนส่งทางราง โดยพบว่ามีข้อมูลจากนักระบาดวิทยา ระบุว่าหากมีการสวมหน้ากากอนามัย และอยู่รวมกันไม่เกิน 50 นาที โอกาสติดเชื้อโควิด-19 แทบจะเป็นศูนย์
ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงคมนาคมได้ขอให้กรมการขนส่งทางราง สรุปเป็นข้อมูลวิชาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ทั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุข,แพทย์ผู้ชำนาญการ และผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าต่างๆ เพื่อนำมาเป็นแนวปฏิบัติในการคลายล็อคผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าในระยะต่อไป
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.)เปิดเผยว่า ยอดผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งหมด เมื่อวานที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการมากกว่า 680,000 คน/วัน หรือพิจารณาง่ายๆว่า เป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละประมาณ 1 แสนคน โดยกรมรางฯ ประเมินว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียน ผู้ใช้บริการระบบไฟฟ้าจะแตะวันละ 1 ล้านคนแน่นอน
ส่วนการหารือเรื่องมาตรการคลายล็อค ผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าในระยะต่อไปนั้นตามข้อมูลที่ได้มีการรายงานกระทรวงคมนาคมไปแล้วว่า มีข้อมูลของนักระบาดวิทยา- พยาธิวิทยา เกี่ยวกับการใช้บริการร่วมกันของผู้โดยสารระบบรถไฟฟ้า ที่อยู่รวมกันไม่เกิน 50 นาทีนั้น ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ กรมรางฯ จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและแพทย์ผู้ชำนาญการรวมทั้งผู้ให้บริการระบบรถรถไฟฟ้า ซึ่งหากได้ข้อสรุปที่เป็นข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนแล้ว ก็จะมีแนวทางในการขยับคลายล็อคต่อไป
นายสรพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมรางฯ ได้พยายามแก้ปัญหาความแออัดในระบบรถไฟฟ้า หลังจากที่ต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่าง หรือ Social Distancing จำกัดคนขึ้นบนขบวนรถและบนสถานี โดยมีการดำเนินการในลักษณะ Group Release รวมทั้งกรมรางฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้บริการของประชาชนในชั่วโมงเร่งด่วนทุกวัน
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการจัดกลุ่มผู้โดยสารเพื่อรอเข้าสถานี-ขึ้นรถ อาจดำเนินการได้ยากขึ้น เมื่อเข้าสู่หน้าฝน เนื่องจากประชาชนที่ออกมารอแถวนอกสถานี อาจได้รับผลกระทบได้ ซึ่งก็หวังว่าการคลายล็อคในระยะต่อไป จะสามารถเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารขึ้นขบวนรถได้ จากปัจจุบันนี้ที่ตู้รถโดยสารสามารถจุ ผู้โดยสารได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้โดยสารในช่วงปกติที่ไม่มีสถานการณ์ COVID-19
