ราคาข้าวเปลือกขึ้นทุกชนิดรัฐงดจ่ายส่วนต่าง

  • เหตุราคาขึ้นสูงเกินราคาที่รัฐบาลประกันรายได้
  • ล่าสุดข้าวเปลือกเจ้าทะลุตันละหมื่นบาทแล้ว
  • หลังความต้องการซื้อเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยมีมติไม่จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 23 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่แจ้งเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 5-11 เม.ย.63 เพราะราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นเกินไปกว่าราคาประกันรายได้ทุกชนิด

ทั้งนี้ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ได้มีการคำนวณราคาอ้างอิง เพราะสิ้นสุดฤดูกาลไปแล้ว แต่ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาอ้างอิงตันละ 14,935.33 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,181.71 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,392.65 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 17,097.69 บาท ซึ่งทุกชนิดราคาสูงกว่าราคาที่รัฐบาลประกันรายได้เอาไว้

โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มคิกออฟโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.62 เป็นต้นมา ที่ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จากในช่วง 22 งวดที่ผ่านมา ได้จ่ายให้มาโดยตลอด คือ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จ่ายมาจนถึงงวดที่ 22 แต่พองวดที่ 23 ไม่มีการจ่ายแล้ว เพราะราคาข้าวปรับตัวขึ้นเร็วมาก โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า ที่เพิ่มขึ้นเกินตันละ 10,000 บาท ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งที่ราคาข้าวขึ้นมาสูงขนาดน้ เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาข้าวเปลือกเจ้าเฉลี่ยตันละ 8,000-9,000 บาท

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น มาจากความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น ทั้งจากการบริโภคในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นจากการที่ประชาชนต้องกักตัวอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความต้องการข้าวเพื่อส่งออก หลังจากที่ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญ เช่น เวียดนาม ได้ห้ามส่งออกข้าว อินเดียระงับคำสั่งซื้อใหม่ ทำให้คำสั่งซื้อข้าววิ่งมายังไทยมากขึ้น จึงเป็นเหตุให้ผู้ส่งออกเร่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน, ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน โดยใน 23 งวด ได้จ่ายเงินชดเชยรายได้ไปแล้วประมาณ 19,368 ล้านบาท คิดเป็น 92.4% ของวงเงินประกันรายได้ทั้งหมด 20,940.84 ล้านบาท