รัฐลดสูญเงินจากคอร์รัปชันได้สูงกว่า1.4แสนล้านบาท

  • หลังกรมบัญชีกลางจับมือองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน
  • ใช้ข้อตกลงคุณธรรม-ความโปร่งใสในการก่อสร้าง
  • เป็นเครื่องมือปราบทุจริตยันเดินหน้าใช้ต่อเนื่อง

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานสัมมนาระดับภูมิภาคว่าด้วยการสร้างความโปร่งใสในงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อคนไทย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ว่า องค์กรภาคเอกชนร่วมกับกรมบัญชีกลาง ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบการในการป้องกันการทุจริต  ด้วยการใช้โครงการข้อตกลงคุณธรรม (IP-Integrity Pact) สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีงบประมาณตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) สำหรับโครงการที่มีงบประมาณต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทมาตั้งแต่ปี 58  

โดยหากนับจำนวนโครงการที่ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว คาดว่า ภายในสิ้นปี 62 ทั้ง 2 เครื่องมือ จะช่วยประหยัดงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หรือทำให้ลดการสูญเสียงบประมาณจากการคอร์รัปชันได้ถึง 142,769  ล้านบาท โดยเป็นการประหยัดจากโครงการข้อตกลงคุณธรรม  97,013 ล้านบาท คิดเป็น 27.06% ของงบประมาณโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่จัดหาได้แล้ว 358,448 ล้านบาท ใน 62 โครงการ รวมถึงโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอชน (PPP) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)  ที่ประหยัดงบได้ถึง 37,457   ล้านบาท 

“ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ประหยัดงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่สูงถึงหลักแสนล้านบาท แต่เป็นการสร้างผลทางสังคม ซึ่งเกิดจากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อาสาสมัครเป็นผู้สังเกตการณ์ 230 คน ล้วนทำงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ   ตามความยาก ความซับซ้อนของแต่ละโครงการ  ที่สำคัญ ทั้ง IP และ CoST ทำให้ข้าราชการที่สุจริตสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะเป็นกระบวนปกป้องไม่ให้ใช้อิทธิพลกับข้าราชการ ช่วยป้องกันการทุจริตในระบบราชการ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ และเพิ่มประสิทธิผลของโครงการ”

นายวิชัย กล่าวว่า องค์กรจะนำข้อตกลงคุณธรรรมไปใช้ในโครงการ PPP อื่นๆ และโครงการสัมปทานขนาดใหญ่ของรัฐ สำหรับโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจและมีความเสี่ยงเรื่องความโปร่งใส ซึ่งอาศัยพ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ในการดำเนินงาน