รอชงครม.เคาะต่อสัญญาค่าโง่ทางด่วน

คมนาคม รอชงครม.เคาะต่อสัญญาทางด่วน 15 ปี 8 เดือน กทพ.เซ็นสัญญากับกิจการร่วมค้า ซีทีบี และ บริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนตะวันตก สัญญาที่ 2 งานโยธา วงเงิน 6,440 ล้านบาท

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กทพ.เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการยุติคดีค่าโง่ทางด่วนกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM ในการต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน เพื่อระงับข้อพิพาทคดีทางด่วนที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาทนั้นว่า ขณะนี้ถือว่าขั้นตอนในส่วนของกทพ.เสร็จสมบูรณ์แล้ว และอยู่ในขั้นตอนที่กระทรวงคมนาคมจะพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า หากกระทรวงคมนาคมเสนอเพื่อขอยุติคดีกับ ครม. และเซ้ฯสัญญาไม่ทันที่สัญญาเอกชนจะสิ้นสุดวันที่ 29 ก .พ. 2563นั้นในเรื่องนี้ทาง กทพ.ได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว ซึ่งรูปแบบคือ จ้างเอกชนรายเดิมให้มีการบริหารจัดการต่อไปก่อน หรือ กทพ.เข้ามาบริหารจัดการเอง

นอกจากนั้นนายสุรงค์ ยังได้กล่าวถึงการลงนามสัญญาจ้างระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับกิจการร่วมค้า ซีทีบี โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 (งานโยธา) โดยโครงการดังกล่าวแบ่งก่อสร้างงานโยธา 4 สัญญา คาดว่าจะเริ่มงานในส่วนของสัญญาที่ 2 หลังเซ็นสัญญากับกิจการร่วมค้าซีทีบีไปแล้ว ในเร็วๆนี้ ขณะนี้รอการอนุมัติเข้าใช้พื้นที่จากกรมทางหลวง (ทล.) เพราะต้องสร้างอยู่บนเกาะกลางถนนพระราม 2 ในส่วนของ 2 สัญญา คือสัญญาที่ 1 ของกิจการร่วมค้า CNA มี บริษัท ไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่นเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด,บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ เอส แอสโซซิเอท เอ็นยิเนียริ่ง (1964) จำกัด.วงเงิน 5,897 ล้านบาท อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดการอุทธรณ์เรื่องคุณสมบัติและผลงานของผู้รับเหมา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน2สัปดาห์จากนั้นจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตามขณะนี้ที่สัญญาที่ 3 ทางกิจการร่วมค้า ไชน่าเรลเวย์-ซีวิล-บุญชัย ประกอบด้วย บจ.China Railway 11th Bureau Group Corporaton, บริษัท ซีวิล เอ็นจีเนียริง จำกัดและ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด วงเงิน 6,098 ล้านบาท ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดแล้ว รอรับฟังการอุทธรณ์ หากไม่มีอะไรจะเซ็นสัญญาได้ต่อไป

นายสุรงค์ กล่าวว่า หลังจากการประมูลมีความชัดเจนแล้ว จะเร่งเดินหน้าทันทีเนื่องจากเป็นประโยชน์ของประชาชน และยอมรับว่างานก่อสร้างแต่ละสัญญาลงนามไม่พร้อมกัน ส่งผลต่อแผนงานของโครงการมีความล่าช้าจากแผนงานแล้วประมาณ 6-7 เดือน ทั้งนี้ในส่วนของโครงการดังกล่าวอยู่ในแผนแม่บททางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ซึ่งเป็นโครงข่ายทางพิเศษที่เชื่อมโยงการเดินทางในแนวรัศมีระหว่าง กทม.กับพื้นที่ทางด้านตะวันตก รวมถึงการเดินทางจากจังหวัดในภาคใต้ของประเทศ เพื่อช่วยให้การเดินทางเข้าสู่ กทม.เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบนทางพิเศษ เฉลิมมหานคร ช่วงดาวคะนองถึงท่าเรือ รวมถึงบนถนนพระรามที่ 2 ในปัจจุบัน

สำหรับงานก่อสร้างแบ่งสัญญางานก่อสร้างออกเป็น 5 สัญญา คือสัญญาที่ 1 ถึงสัญญาที่ 4 เป็นงานโยธา และสัญญาที่ 5 เป็นงานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางฯ ซึ่งสัญญาที่ 2 ที่เซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.นี้ เป็นการดำเนินการบนถนนพระราม 2 โดยเริ่มต้นจาก กม.ที่ 6+400 ถึง กม.ที่ 11+700 ของโครงการ หรือ กม.ที่ 1+300 ถึง กม.ที่ 6+600 ของถนนพระราม 2 รวมระยะทางประมาณ 5.3 กม. ประกอบด้วยทางยกระดับ ทางขึ้น-ลง ที่กลับรถ ด่านเก็บค่าผ่านทาง ด่านจ่ายบัตรค่าผ่านทาง และอาคารด่านฯ รวมทั้งส่วนประกอบอื่น ๆ ของโครงการฯ มีระยะเวลาก่อสร้าง 1,170 วัน