- ย้ำต้องดูความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก
- เผยทดสอบระบบเรียนออนไลน์ ยังไม่พบปัญหาเพิ่ม
- พร้อมเร่งสำรวจพื้นใด ที่สามารถเปิดเรียนที่โรงเรียนได้
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้จัดทำข้อเสนอให้ทบทวนการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนเอกชน ประเภทนานาชาติจำนวน 216 แห่ง ในวันที่ 1 มิ.ย.2563 เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากมีการจัดการเรียนการสอนที่เป็นหลักสูตรเดียวกันกับของต่างประเทศ และเดือนมิ.ย. คือเดือนสุดท้ายของปีการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นช่วงปิดภาคเรียนของโรงเรียนนานาชาติแล้ว ดังนั้นหากต้องเปิดเรียนตามประกาศของ ศธ.ในวันที่ 1 ก.ค.2563 จะส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างมาก
ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ส่งข้อเสนอของ สช.ให้คณะกรรมการกลั่นกรองของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 (ศบค.) แล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการชุดที่ 1 ซึ่งจะดูเรื่องความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก รวมถึงมาตรการต่างๆที่ป้องกันโควิด-19 คาดว่า จะนำเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 29 พ.ค.นี้ ในการพิจารณาต่อไป แต่ยืนยันว่าต้องดูความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก ไม่เกี่ยวปัญหาทางธุรกิจ
ส่วนประเด็นเรื่องการเรียนออนไลน์นั้น รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้หลายๆที่มีการปรับสภาพและเตรียมความพร้อมให้เป็น New Normal ด้านการศึกษา โดยขณะนี้ยังไม่มีการรายงานปัญหาเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่าการเรียนการสอนก่อนเปิดเทอม 1 ก.ค.นั้น จะเน้นเรียนผ่านทางทีวีของ DLTV เป็นหลัก แต่พบว่าเด็กโตใช้มือถือในการรับสัญญาณเป็นหลัก และการเรียน 2 ทาง จากการสำรวจพบว่า 90% ของเด็กโตจะใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ในการเรียนการสอนเป็นการผสมผสานระหว่างออนแอร์และออนไลน์ เหตุผลที่ใช้โทรทัศน์ในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากคำนึงถึงค่าใช้จ่าย คือ ผู้ปกครองจะเสียเฉพาะค่าไฟ แต่หากใช้มือถือ สมาร์ทโฟน ดูผ่านเว็บไซต์จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยู่ระหว่างสำรวจว่า พื้นที่ใดจะสามารถเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้เนื่องจากสถานการณ์เริ่มควบคุมได้ ซึ่งต้องขอให้รอฟังความชัดเจนจาก ศบค.อีกครั้ง
“ผมไม่หนักใจและไม่กังวล ในการชี้แจงต่อสภาฯ เกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนออนไลน์ เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งต้องหาแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อรองรับการเรียนการสอนของเด็กและเยาวชนเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข จากการทดลองเรียน เป็นโอกาสดีที่เห็นปัญหา ที่จะหาทางแก้ได้ ซึ่งมี2 กระแส ทั้งอยากให้เปิดเรียนที่โรงเรียนและจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากไม่ไว้ใจสถานการณ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาให้ดีที่สุดต่อไป” นายณัฏฐพล กล่าว