รมว.ดีอีเอส กำชับหน่วยงานสำคัญ ยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์


รมว.ดีอีเอส สั่ง สกมช. คุมเข้มทุกหน่วยภายใต้การกำกับของ พ.ร.บ. ไซเบอร์ พร้อมย้ำแผนดำเนินงานปี 67 Proactive protection X Total defense

  • ชี้ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ความสงบในสังคม
  • ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่นของประชาชนต่อขององค์กรต่างๆ
  • ต้องเสริมความแข็งแกร่งในทุกปัจจัยเสี่ยง ด้วยมาตรการแก้ไขที่เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแกร่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) “จัดการประชุม Kick off แผนการดำเนินงาน ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567” ณ ห้องประชุม NT Auditorium โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดการประชุมฯ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกท่านน่าจะได้รับทราบ และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเหตุการณ์เรียกค่าไถ่ข้อมูลจากการติดแรนซัมแวร์(Ransomware) เหตุการณ์ข้อมูลสำคัญรั่วไหลจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นต้น

“เชื่อว่า ณ เวลานี้ ทุกท่านตระหนักเป็นอย่างดีแล้วว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์สามารถส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ความสงบเรียบร้อยในสังคม และส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือเชื่อมั่นของประชาชนต่อขององค์กรของท่านอย่างมากเพียงใด ผมในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งมีความรับผิดชอบโดยตรงต่อการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ นโยบายและแผนด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของหน่วยงานทุกท่าน ก็มีความห่วงใยและตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์เช่นเดียวกัน” นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา สกมช. ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ให้หน่วยงานของท่านได้มีการรับรู้อย่างทั่วถึงตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เพื่อให้มีความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานของท่านในการดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2567 นี้ เป็นปีที่ทุกหน่วยงานต้องพร้อมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างจริงจัง และ สกมช. จะต้องตรวจสอบ ประเมินผลการปฏิบัติอย่างเข้มข้น เพื่อให้พร้อมรับมือและลดความเสี่ยง ต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้ได้มากที่สุด

ด้านพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวว่า หลักการสำคัญของการดำเนินการปี 2567 คือ Proactive protection ซึ่งหมายถึงการป้องกันก่อนเกิดเหตุ เปรียบได้กับการล้อมคอกก่อนวัวหาย และ Total defense ซึ่งหมายถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกปัจจัยเสี่ยง ด้วยมาตรการแก้ไขที่เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแกร่ง เพื่อให้หน่วยงานได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ในแต่ละมาตราที่เกี่ยวข้องในขั้นตอน ผลลัพธ์ และห้วงเวลาการดำเนินการ ซึ่งหน่วยงานจะสามารถวางแผนดำเนินการได้ล่วงหน้า สามารถจัดสรรทรัพยากร เวลาและบุคลากรที่ใช้ในการดำเนินการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบเวลา

โดยตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม คือ หน่วยงานสามารถดำเนินการลดความเสี่ยงและมีผลการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้อย่างสอดคล้องตามมาตรฐานที่กำหนด รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับ สกมช. ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น