“มติชน” ผนึกกำลัง “เดลินิวส์”’ ลุยจัดใหญ่เวทีดีเบต “สงคราม 9 พรรค The Last War” 2 พ.ค.นี้

  • ไม่ยั้งเปิดพื้นที่แคนดิเดตนายกฯ7พรรคประชันวิสัยทัศน์เต็มที่
  • ชี้โพลรอบ2สะท้อนผลเลือกตั้งจริงชวนประชาชนร่วมโหวตพร้อมเปิดเวทีวิเคราะห์ผลโพล2ครั้งเจาะลึกทุกมิติ5..นี้
  • เริ่มจากรอบเวที“Young bloodวัดอนาคตตามติดด้วยขุนศึกประจัญบานรอบแม่ทัพวิสัยทัศน์และสัญญาประชาคมเป็นไฮไลต์ห้ามพลาด!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม..66) ผู้บริหารเครือ “มติชนเดลินิวส์” ได้ร่วมกันแถลงความสำเร็จผลโพลรอบแรกพร้อมจัดเวทีดีเบต ” สงคราม 9 พรรค The Last War ” 2 ..นี้ ที่พารากอนฯ เปิดพื้นที่แคนดิเดตนายกฯ 7 พรรคประชันวิสัยทัศน์ ชี้โพลรอบ 2 สะท้อนผลเลือกตั้งจริง ชวนปชช.ร่วมโหวต พร้อมเปิดเวทีวิเคราะห์ผลโพล 2 ครั้ง เจาะลึกทุกมิติ 5 ..

ทั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความสนใจ และประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น สำหรับ “มติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งเครือมติชนได้ผนึกกำลังร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ร่วมเจาะลึกศึกการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน ครบทุกมิติ ผ่าน 5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ 2 กลยุทธ์

เริ่มจากเวทีแรก “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ต่อด้วย เวทีที่ 2 “วิเคราะห์ เลือกตั้ง’66″ ในวันที่ 20 มีนาคม 2566 เวทีที่ 3 “ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย” ในวันที่ 31 มีนาคม 2566 และเวทีที่ 4 “เวทีเสียงประชาชน : นโยบายที่ใช่สิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรทำ” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

รวมถึงในที่สุด ก็ถึงเวลาชี้ชะตาประเทศไทยกับเวทีโค้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 12.00–17.15  รอยัล พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน

ทั้งนี้ นับเป็นไฮไลต์ของ “มติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย” ที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการจัดเวทีร่วมกันเป็นครั้งแรก ระหว่างสื่อใหญ่ทั้งสองค่ายนั้นคือ เครือเดลินิวส์และเครือมติชน โดยจะได้พบกับขุนพลเลือดใหม่ (Young blood) ขุนศึกตัวตึงตัวเก๋า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะมาประชันกันอย่างดุเดือดในสมรภูมิศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” จะเริ่มขึ้น กลุ่มสื่อในเครือมติชนและเดลินิวส์ ได้ร่วมมือกันจัดงานแถลงข่าวขึ้น ในวันที่ 25 เมษายน 2566 เวลา 14.00  ชั้น G บริษัท มติชน จำกัด (มหาชนโดยมีผู้บริหารเครือมติชน นำโดย ..ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชนพร้อมด้วย นายวรศักดิ์ ประยูรศุข รองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชนและนายจำลอง ดอกปิก บรรณาธิการ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ร่วมกับผู้บริหารเครือเดลินิวส์ นำโดย นางประพิณ รุจิรวงศ์ นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ และนายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ เข้าร่วมงาน ท่ามกลางสื่อมวลชนในเครือมติชนและเดลินิวส์ร่วมสัมภาษณ์อย่างคับคั่ง 

นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างกลุ่มสื่อในเครือมติชนและเดลินิวส์ หลังจากที่มีการร่วมกันทำโพลเลือกตั้ง’66 ครั้งประวัติศาสตร์ด้วยกันถึง 2 ครั้ง

สำหรับ มติชน เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย : “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” ในครั้งนี้ ทั้ง 9 พรรค ได้แก่พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคพลังประชารัฐ ได้พร้อมใจกันส่งตัวแทนมาสู้ศึก ร่วมนำเสนอนโยบายไม้เด็ด ประชันกันครั้งใหญ่

เริ่มจากรอบเวที “Young blood วัดอนาคต” เวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากพรรคการเมือง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวหน้าใหม่ที่ลงสนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่มีความรู้ ความสามารถ มีความเข้าใจและสามารถถ่ายทอดนโยบายของพรรคในมุมมองที่สดใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความหวัง และการทำงาน การเมืองเชิงสร้างสรรค์ ทิศทางใหม่ๆ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต โดยมีผู้ร่วมประชันในครั้งนี้ได้แก่ สิริลภัส กองตระการ พรรคก้าวไกลรัดเกล้า สุวรรณคีรี พรรครวมไทยสร้างชาติเมธี อรุณ พรรคประชาธิปัตย์สกาวใจ พูนสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทยอิทธิเดชสุพงษ์ พรรคภูมิใจไทยปณิธาน ประจวบเหมาะ พรรคไทยสร้างไทยดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ พรรคชาติไทยพัฒนาวิเวียน จุลมนต์ พรรคชาติพัฒนากล้า และระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา พรรคพลังประชารัฐ

ต่อมาเป็นรอบเวที “ขุนศึก ประจัญบาน” ซึ่งถือเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน หรือผู้แทนที่เป็นบุคคลสำคัญในพรรคการเมือง ที่สามารถนำเสนอประเด็นหลักที่พรรคใช้หาเสียง อธิบายเหตุผลในการเลือกใช้กลยุทธ์ – นโยบาย ในช่วงโค้งสุดท้ายและพร้อมที่จะดีเบต โต้แย้งกับตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ได้ ทั้งในประเด็นการเมือง – เศรษฐกิจ – สังคม โดยตัวแทนพรรคจะได้รับโอกาสในการ สื่อสารถึงจุดแข็ง จุดขาย ทีเด็ดในแต่ละนโยบาย และประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆขุนศึกที่เป็นตัวแทนทั้ง 9 พรรค อาทิ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคก้าวไกลเกียรติ สิทธีอมร พรรคประชาธิปัตย์ณัฐวุฒิใสยเกื้อ พรรคเพื่อไทยพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พรรคภูมิใจไทยศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทยชาติชาย พยุหนาวีชัยพรรคชาติไทยพัฒนาอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคชาติพัฒนากล้า และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ

รวมถึงรอบสุดท้ายเป็นรอบเวที “แม่ทัพ วิสัยทัศน์และสัญญาประชาคม” รอบนี้จะเป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาด เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น “แม่ทัพ” ของพรรคจะได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์และสัญญาประชาคม โดยการนำเสนอถึงสิ่งที่ต้องการจะทำ เพื่อเปลี่ยนให้ประเทศไทยในอนาคตดีขึ้น เนื้อหาครอบคลุม 3 เรื่อง ได้แก่ ปัญหาประเทศในวันนี้ทางออกจากปัญหา และประเทศไทยในอนาคตภายใต้การนำของพรรคการเมืองของท่าน

ในรอบนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของทั้ง 7 พรรค ได้แก่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาและสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า จะแสดงวิสัยทัศน์เพื่อเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดว่า ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 แล้วจะทำอะไร ทำอย่างไร ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เพื่อประเทศไทยก้าวไปสู่บทใหม่ที่เข้มแข็งและยั่งยืนที่สุด

สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” นับเป็นบทสรุป และเจาะลึกศึกการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์อย่างรอบด้านครบทุกมิติ ของ “มติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ในครั้งนี้อาจพลิกโฉมหรือเปลี่ยนบริบทของประเทศไทย ทั้งนี้ก็อยู่ที่เสียงของประชาชนทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ช่องทางการถ่ายทอดสดสามารถรับชมได้ทาง Facebook : Matichon Online / Matichon tv / The Politics / Khaosod / Khaosod English / Prachachat / มติชนสุดสัปดาห์ / Dailynews – เดลินิวส์ออนไลน์ และทางYoutube : Matichon tv / Khaosod Tv / Matichon Online / ประชาชาติธุรกิจ / มติชนสุดสัปดาห์ / DailynewsOnlineOfficial

ในวันเดียวกันนี้ (25 เม..66) เมื่อเวลา 14.00 ผู้บริหารเครือมติชนและผู้บริหารเครือเดลินิวส์ นำโดย ..ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชนนายวรศักดิ์ ประยูรศุข รองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชนนายจำลอง ดอกปิก บรรณาธิการ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน และนายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน บรรณาธิการอำนวยการ และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด ร่วมกับผู้บริหารเครือเดลินิวส์ นำโดย นางประพิณรุจิรวงศ์ นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ และนายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ ร่วมแถลงข่าว เวที ” สงคราม 9 พรรค The Last War ” ที่จะจัดขึ้นวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน ปทุมวัน กรุงเทพฯ และเวที ” ร่วมวิเคราะห์โพลเลือกตั้ง 66 ” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ที่อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)

นางประพิณ กล่าวถึงความสำเร็จของโพลมติชนเดลินิวส์ว่า ขอขอบคุณผู้อ่านที่ให้การสนับสนุนในการทำโพลครั้งนี้ทำให้เราได้รับการตอบรับเป็นจำนวนมาก และในครั้งต่อไปที่เราจะทำโพลอีกครั้ง ก็คิดว่าคงจะได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้อ่าน หากใครที่ยังไม่ได้ส่งแบบสำรวจ ก็สามารถส่งได้ทั้งช่องทางของมติชน และเดลินิวส์ ได้ทั้งสองช่องทาง

..ปานบัว กล่าวว่า ทางมติชนเปิดตัวแคมเปญ มติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย” ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ผ่าน 5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ออนไลน์ และ 2 กลยุทธ์ สิ่งพิมพ์ โดยเริ่มจากเวทีแรก “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ต่อด้วย เวทีที่ 2 “วิเคราะห์ เลือกตั้ง’66 โดยเปรียบเทียบผลคะแนนจากการเลือกตั้งปี 2562 รวมถึงการแบ่งเขตใหม่เวทีที่ 3 “ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งได้เสียงตอบรับจากประชาชนอย่างดี และเวทีที่ 4 “เวทีเสียงประชาชน : นโยบายที่ใช่สิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรทำ” โดยฟังคำแนะนำข้อเรียกร้องจากภาคประชาสังคม เอกชน และผู้นำท้องถิ่น ซึ่งคลุกคลีกับปัญหาจริงๆ 

แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สู้เวทีไฮไลต์ ซึ่งเป็นเวทีที่ 5 ซึ่งจะจัดร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างเครือมติชน และเครือเดลินิวส์ ใช้ชื่อว่า “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 12.00-17.15  รอยัล พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน โดยระดมทั้ง Young blood ขุนศึก และขุนพล เพื่อย้ำยุทธศาสตร์และจุดยืนอย่างเต็มที่เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ประกอบการตัดสินใจ

เวทีนี้เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างเครือเดลินิวส์กับเครือมติชน เราทั้งสองค่ายเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งมากจนกระทั่งมาร่วมมือกัน ทำทั้งโพล และเวทีกิจกรรม เพื่อให้ทุกท่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนประเทศ เป็นอนาคตของพวกเราทุกคน” ..ปานบัว กล่าว

..ปานบัว กล่าวต่อว่า ส่วนเวทีวิเคราะห์ผลโพลเลือกตั้ง ซึ่งจะจัดในวันที่ 5 พฤษภาคมเป็นเวทีพิเศษ ที่ต้องจัดเวทีดังกล่าว เพราะผลโพลมีความสำคัญมากๆ หลังจากการโพลรอบที่ 1 ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงมีการจัดเวทีวิเคราะห์ผลโพลให้ทุกคนได้ฟัง เพราะเมื่อเราจะเลือกตั้งอยู่แล้ว อะไรที่เราทำได้ที่เป็นสาระสำคัญในแง่มุมคนทำสื่อเราทำเต็มที่ โดยผลโพลรอบแรกเราแบ่งให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และครอบคลุมฐานโหวตเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดระดับประเทศ ดังนั้น เวทีสุดท้ายที่เป็นเวทีพิเศษวิเคราะห์เจาะลึกผลโพล ซึ่งร่วมกับเครือเดลินิวส์ จะมีประโยชน์สำหรับผู้ติดตามเดลินิวส์และมติชน รวมถึงผู้ติดตามทั่วไป

ขณะที่ นายจำลอง กล่าวว่า เวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” ในครั้งนี้ ทั้ง 9 พรรค ได้แก่ พรรคก้าวไกลพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคชาติไทยพัฒนาพรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคพลังประชารัฐ ได้พร้อมใจกันส่งตัวแทนมาสู้ศึก ร่วมนำเสนอนโยบายไม้เด็ด ประชันกันครั้งใหญ่ที่สุด โดยจะเริ่มจากรอบเวที “Young blood วัดอนาคต” เวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากพรรคการเมืองซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวหน้าใหม่ที่ลงสนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่มีความรู้ ความสามารถ มีความเข้าใจและสามารถถ่ายทอดนโยบายของพรรคในมุมมองที่สดใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความหวัง และการทำงาน การเมืองเชิงสร้างสรรค์ทิศทางใหม่ๆ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต 

โดยมีผู้ร่วมประชันในครั้งนี้ได้แก่ ..สิริลภัส กองตระการ พรรคก้าวไกล..รัดเกล้า สุวรรณคีรี พรรครวมไทยสร้างชาตินายเมธี อรุณ พรรคประชาธิปัตย์..สกาวใจ พูนสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทยนายอิทธิเดช สุพงษ์ พรรคภูมิใจไทยนายปณิธาน ประจวบเหมาะ พรรคไทยสร้างไทยนายอาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ พรรคชาติไทยพัฒนา..วิเวียนจุลมนต์ พรรคชาติพัฒนากล้า และนายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา พรรคพลังประชารัฐ

นายจำลอง กล่าวว่า ต่อมาเป็นรอบเวที “ขุนศึก ประจัญบาน” ซึ่งถือเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน หรือผู้แทนที่เป็นบุคคลสำคัญในพรรคการเมือง ที่สามารถนำเสนอประเด็นหลักที่พรรคใช้หาเสียง อธิบายเหตุผลในการเลือกใช้กลยุทธ์ – นโยบายในช่วงโค้งสุดท้าย และพร้อมที่จะดีเบต โต้แย้งกับตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ได้ ทั้งในประเด็นการเมือง – เศรษฐกิจ – สังคม โดยตัวแทนพรรคจะได้รับโอกาสในการ สื่อสารถึงจุดแข็ง จุดขาย ทีเด็ดในแต่ละนโยบาย และประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ ขุนศึกที่เป็นตัวแทนทั้ง 9 พรรค อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคก้าวไกลนายเกียรติ สิทธีอมร พรรคประชาธิปัตย์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พรรคเพื่อไทยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พรรคภูมิใจไทย..ศิธาทิวารี พรรคไทยสร้างไทยนายชาติชาย พยุหนาวีชัย พรรคชาติไทยพัฒนานายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคชาติพัฒนากล้า และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ

นายจำลอง กล่าวว่า ส่วนรอบสุดท้ายเป็นรอบเวที “แม่ทัพ วิสัยทัศน์และสัญญาประชาคม” รอบนี้จะเป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาด เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น “แม่ทัพ” ของพรรคจะได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์และสัญญาประชาคมโดยการนำเสนอถึงสิ่งที่ต้องการจะทำ เพื่อเปลี่ยนให้ประเทศไทยในอนาคตดีขึ้น เนื้อหาครอบคลุม 3 เรื่อง ได้แก่ปัญหาประเทศในวันนี้ ทางออกจากปัญหา และประเทศไทยในอนาคตภายใต้การนำของพรรคการเมืองของท่าน ในรอบนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของทั้ง 7 พรรค ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลนายพีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาตินายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า จะแสดงวิสัยทัศน์เพื่อเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดว่า ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 แล้วจะทำอะไร ทำอย่างไร ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เพื่อประเทศไทยก้าวไปสู่บทใหม่ที่เข้มแข็งและยั่งยืนที่สุด