พาณิชย์เตรียมมอบ 3 รางวัลใหญ่ให้ภาคธุรกิจหวังสร้างความ เชื่อมั่นนักลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก-พบภาคธุรกิจท้องถิ่นมากขึ้น



.กระทรวงพาณิชย์มอบ 3 รางวัลใหญ่ให้ภาคธุรกิจ : แฟรนไชส์ ธรรมาภิบาลธุรกิจ และสมาคมการค้าดีเด่น

.สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศย้ำ!เศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง

.พร้อมสั่งการเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งต่อเนื่อง เน้นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่เศรษฐกิจโลก ทุกประเทศต่างได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบบริหารจัดการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดฯ ที่ดีเยี่ยม โดยหลังจากที่โรคโควิด-19 ในไทยเริ่มทุเลาเบาบางลง ทุกภาคส่วนผนึกกำลังเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างเต็มที่ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่ดูแลด้านเศรษฐกิจของประเทศ ได้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน รวมทั้ง กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดพิธีมอบรางวัลให้แก่ภาคธุรกิจ 3 งานใหญ่ ประกอบด้วย 1) รางวัล Thailand Franchise Award 2020 2) รางวัลมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ และ 3) รางวัลสมาคมการค้าดีเด่น 2563 (Together is Power 2020) ทั้ง 3 รางวัลเกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับหน่วยงานพันธมิตรที่ต้องการส่งเสริมสนับสนุนและผลักดันให้ภาคธุรกิจมีระบบบริหารจัดการธุรกิจที่ดี มีธรรมาภิบาลธุรกิจ มีศักยภาพและมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้ง ทำให้ภาคธุรกิจของไทยสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยทั้ง 3 รางวัลได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะทางทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเข้มข้น และคัดเลือกภาคธุรกิจที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์มาตรฐานและผ่านการประเมินเข้ารับรางวัลฯ โดยจะมีการมอบรางวัลให้แก่ภาคธุรกิจจำนวนรวม 131 รางวัล แบ่งเป็นรายธุรกิจ และรายบุคคล ประกอบด้วย



“รางวัล Thailand Franchise Award 2020 เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศที่มีภาพลักษณ์ที่ดี มีสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของตลาดและผู้บริโภค รางวัลแบ่งออกเป็น 5 ประเภท 13 รางวัล โดยกำหนดมอบรางวัลวันอังคารที่ 8 กันยายน 2563 ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์”

สำหรับรางวัลมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ เพื่อสานต่อธุรกิจโปร่งใส สู่ความยั่งยืน ประจำปี 2563 นั้น เป็นรางวัลที่จัดขึ้นเพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีความซื่อสัตย์ เป็นธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้ง ยึดหลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ จำนวน 65 รางวัล แบ่งออกเป็น โล่ธรรมาภิบาลธุรกิจยอดเยี่ยม 9 รางวัล และหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ 56 รางวัล กำหนดมอบรางวัลวันพุธที่ 9 กันยายน2563 ณ ห้องฉลาดลบเลอสรรค์ กระทรวงพาณิชย์



นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า รางวัลสมาคมการค้าดีเด่น 2563 หรืองาน Together is Power 2020 เป็นรางวัลที่จัดขึ้นเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีแก่สมาคมการค้าที่มีการบริหารจัดการตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ประกอบกับกระตุ้นให้สมาคมการค้าพัฒนาองค์กรและบทบาทในการพัฒนาธุรกิจของประเทศ พร้อมผลักดันให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตตามมาตรฐานธุรกิจสากลโดยนำหลัก Balanced Scorecard: BSC มาใช้ในการประเมินศักยภาพสมาคมการค้าที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศ แบ่งรางวัลออกเป็น รางวัลสมาคมการค้าดีเด่น จำนวน 45 รางวัล และรางวัลผู้บริหารสมาคมการค้าดีเด่น ที่มีคุณลักษณะของผู้บริหาร 5 ด้าน จำนวน 8 รางวัล กำหนดมอบรางวัลวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 ณ ห้องเวิร์ลบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์


ทั้งนี้การจัดงานมอบรางวัลฯ ดังกล่าว จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของภาครัฐที่มุ่งสร้างระบบบริหารจัดการภาคธุรกิจให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล มีธรรมาภิบาลธุรกิจ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจไทย โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปของการส่งเสริม สนับสนุน บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ภาคธุรกิจ โดยจะเน้นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศเป็นหลัก”

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการหลั่งไหลของคนเมืองกลับสู่ภูมิลำเนาจำนวนมาก เป็นโอกาสดีที่มีคนวัยแรงงานกลับไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เนื่องจากแรงงานมีความรู้ด้านเทคโนโลยี สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทดแทนทักษะและกำลังแรงงานวัยสูงอายุ โดยแรงงานส่วนหนึ่งหันมาเป็นเจ้าของกิจการในพื้นที่ เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจท้องถิ่นทั้งรายใหม่และรายเดิมจะทำให้กระทรวงพาณิชย์สามารถวางแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น นับแต่นี้ไป จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจท้องถิ่นมากขึ้น ก่อนนำมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป